กรมเจรจาฯ กางแผนการทำงานปี’65 เตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม JTC กับคู่ค้ากว่า 10 ประเทศ แก้อุปสรรคทางการค้าการลงทุนของไทย พร้อมเดินหน้าเปิดเจรจา FTA ฉบับใหม่ เร่งรัดสรุปผลการเจรจา FTA ทั้งตุรกี ปากีสถาน และศรีลังกา
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สำหรับแผนการทำงานด้านการเจรจาการค้าระหว่างประเทศปี 2565 ทั้งการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า (Joint Trade Committee : JTC) กับประเทศคู่ค้าสำคัญ เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้าและกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้า และแผนการเตรียมการเปิดเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ฉบับใหม่ ๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ต้องการให้เร่งแก้ปัญหาอุปสรรคการส่งออกของผู้ประกอบการไทยและเปิดการเจรจา FTA ฉบับใหม่ ๆ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
แผนการประชุม JTC ระดับรัฐมนตรี เป็นหนึ่งกลไกสำคัญในการสร้างพันธมิตรเศรษฐกิจและขยายการค้าการลงทุนของไทยกับประเทศคู่ค้า ซึ่งกรมได้เตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JTC กับประเทศคู่ค้าอย่างน้อย 10 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ เกาหลีใต้ รัสเซีย ยูเครน สหราชอาณาจักร ภูฏาน และมัลดีฟส์ พร้อมทั้งเข้าร่วมการประชุม JTC ที่ประเทศคู่ค้าเป็นเจ้าภาพ อาทิ จีน และบังกลาเทศ
นอกจากนี้ การประชุม JTC จะเป็นโอกาสดีที่ระดับนโยบายของไทยกับคู่ค้าได้หารือกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน เพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้าและแก้ปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน
นอกจากนี้ กรมยังมีแผนการเปิดเจรจา FTA ฉบับใหม่ ๆ ซึ่งมีประเทศเป้าหมายที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการหารือเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องความคาดหวังของการเจรจาและเร่งดำเนินกระบวนการภายในประเทศ เพื่อจัดทำกรอบเจรจาเสนอระดับนโยบาย ได้แก่ การเปิดเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA)
ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ และสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) ประกอบด้วย รัสเซีย เบลารุส อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการจัดทำ FTA กับกลุ่มประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนกับประเทศที่เป็นตลาดหลักและตลาดใหม่ของไทยและเชื่อมโยงไทยกับห่วงโซ่การผลิตโลก นอกจากนี้ ยังเร่งรัดสรุปผลการเจรจา FTA ที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว อาทิ การเจรจา FTA กับตุรกี ปากีสถาน และศรีลังกา รวมทั้ง FTA อาเซียน-แคนาดา ซึ่งเปิดการเจรจาไปเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) จำนวน 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ชิลี เปรู อินเดีย และฮ่องกง (ความตกลง RCEP ถือเป็น FTA ฉบับล่าสุดของไทย และเป็น FTA ฉบับที่ใหญ่ที่สุดในโลก) สำหรับในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2564 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าระหว่างไทยกับคู่เจรจา FTA 18 ประเทศ มีมูลค่ารวม 253,212.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 25.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วน 63.6% ของการค้ารวมของไทย
โดยไทยส่งออกไปคู่เจรจา FTA 18 ประเทศ มูลค่า 123,693.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 18.2% และไทยนำเข้าจากคู่เจรจา FTA 18 ประเทศ มูลค่า 129,518.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 32.8%