กรมการค้าภายใน ตรวจเข้มผู้นำเข้ามันสำปะหลัง ป้องกันการลักลอบนำเข้ามาจากปท.เพื่อนบ้าน

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพของราคาหัวมันสำปะหลังสดและดูแลเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมในการจำหน่าย กรมฯ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ สายตรวจพร้อมด้วยนายตรวจชั่งตวงวัด ออกตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผู้นำเข้า มันสำปะหลังรวมถึงการตั้งด่านตรวจยานพาหนะที่ใช้เคลื่อนย้ายมันสำปะหลัง เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และจันทบุรี

ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 เวลาประมาณ 00.05 น.เจ้าหน้าที่สายตรวจร่วมกับนายตรวจชั่งตวงวัด ได้ทำการตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว พบรถบรรทุกพ่วงจำนวน 1 คัน ทำการขนย้ายมันสำปะหลังเส้น จากจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี โดยใช้เส้นทางผ่าน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว มีปลายทาง ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบหนังสืออนุญาตการขนย้ายมันสำปะหลังสดและมันเส้น พบว่า รถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวขนย้ายมันสำปะหลังเส้น ที่มีปริมาณขออนุญาตขนย้ายจำนวน 30,000 กิโลกรัม แต่ขนย้ายจริงจำนวน 33,335 กิโลกรัม และระยะเวลาการขนย้าย ไม่ตรงตามที่อนุญาตไว้ในหนังสืออนุญาตฯ ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 11 พ.ศ.2560 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดและมันเส้น ลงวันที่ 24 มกราคม 2560 อันเป็นความผิดตามมาตรา 25 (4)(7) และมีโทษตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวพนักงานขับรถบรรทุกพ่วง พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองหมากฝ้าย จ.สระแก้ว ดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการรับซื้อย้อนหลังของผู้ประกอบการโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังบางราย ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ยังพบว่า มีการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดในปริมาณที่เกินกว่าที่ขออนุญาต เช่น ขออนุญาตขนย้าย พ่วงละ 30,000 กิโลกรัม แต่ขนย้ายจริงประมาณพ่วงละ 60,000 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบย้อนกลับไปยังสถานที่ต้นทางการขนย้าย พบว่า มีการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการตรวจสอบดังกล่าวถือว่าเป็นแนวทางแก้ไขอีกมาตรการหนึ่งของกรมฯ ที่เป็นการป้องปรามไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศ ซึ่งจะทำให้ราคารับซื้อสินค้าเกษตรของเกษตรกรมีราคาลดลง และเป็นการรักษาเสถียรภาพระบบตลาดสินค้าเกษตร ภายในประเทศให้เกิดความเป็นธรรม ในด้านราคาและปริมาณ

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายในจึงขอแจ้งให้ผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตร ปฏิบัติให้ถูกต้องทั้งในเรื่องของการแสดงราคารับซื้อและการขนย้ายให้มีรายละเอียดตรงตาม ชนิด ปริมาณ ระยะเวลา สถานที่ และพาหนะ ตรงตามที่ระบุในหนังสืออนุญาตขนย้าย โดยเฉพาะในเรื่องของการแสดงราคารับซื้อ และเงื่อนไขต่างๆ ในการแสดงราคารับซื้อ และห้ามกดราคารับซื้อโดยเด็ดขาด เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าทางการเกษตร โดยกรมการค้าภายใน จะได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง