บ้านปู โชว์ผลงานโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ฮาติ๋ญในเวียดนาม

บ้านปู เผยโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ฮาติ๋ญ ในเวียดนาม อีกความสำเร็จในการสร้างการเติบโตของพอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้นของบ้านปูตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งมอบ “อนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน”

วันที่ 9 ธันวาคม 2564 นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านปู ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ เดินหน้าเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter โดยมุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ล่าสุดบริษัท BRE Singapore Pte. Ltd (BRES) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ที่บ้านปูถือหุ้นในอัตรา 50% ได้เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ฮาติ๋ญ (Ha Tinh) ที่มีกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ในจังหวัดฮาติ๋ญ (Ha Tinh) ประเทศเวียดนาม โดย BRES ได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย (SPA) เพื่อเข้าซื้อกิจการในอัตรา 100% ของ Ha Tinh Solar Power Joint Stock Company

สมฤดี ชัยมงคล
สมฤดี ชัยมงคล

คาดว่ากระบวนการซื้อขายจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2565 โดยการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในพลังงานที่สะอาดขึ้นและขยายระบบนิเวศด้านธุรกิจพลังงานของบ้านปู เพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่บริษัทจะมี EBITDA มากกว่าร้อยละ 50 จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานภายในปี 2568 นอกจากนั้น ยังเป็นอีกก้าวสำคัญในการดำเนินตามแผนกลยุทธ์ของบ้านปูที่สอดคล้องกับแนวคิดและวัตถุประสงค์หลักของประชาคมโลกในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา บ้านปูประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการเร่งเดินหน้าขยายพอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้น ด้วยการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วอย่างต่อเนื่องทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็น โรงไฟฟ้า Nakoso IGCC ในญี่ปุ่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เบอริล (Beryl) และมานิลดรา (Manildra) ในออสเตรเลีย โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ CCGT “Temple I” ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และล่าสุด โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ฮาติ๋ญ ในเวียดนาม

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นภาพสะท้อนของความมุ่งมั่นในการเร่งพัฒนาธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน และโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions: HELE) ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญตามที่กำหนดไว้ในแผนกลยุทธ์ของบ้านปูที่สอดคล้องกับแนวทางของประชาคมโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของบ้านปู เนื่องจากเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตในด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุดของโลก มีแผนพัฒนาด้านพลังงานที่มุ่งเน้นการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนที่สูง โดยเฉพาะพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ การลงทุนในโรงไฟฟ้าฮาติ๋ญจึงสอดคล้องกับทิศทางกลยุทธ์ของบ้านปู และนับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการเสริมสร้างสินทรัพย์ด้านพลังงานหมุนเวียน และเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจในตลาดพลังงานที่สำคัญทั่วโลก

โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ฮาติ๋ญ เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 มีราคารับซื้อไฟฟ้า (Feed-in-Tariff: FIT) ที่ 9.35 เซนต์สหรัฐ ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง โดยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบสายส่งให้แก่การไฟฟ้าเวียดนาม ตามสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 20 ปี

บ้านปูยังคงเดินหน้ากระบวนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter โดยมุ่งเน้นเสาะหาโอกาสการลงทุนเพื่อบรรลุเป้าหมายกำลังการผลิตจากธุรกิจผลิตพลังงาน 6,100 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 1,600 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ยังรวมถึงการมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้นและเทคโนโลยีพลังงานมากกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2568 ซึ่งการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แห่งใหม่นี้ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในปัจจุบันของบ้านปูอยู่ที่ 1,128 เมกะวัตต์

“บ้านปูมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจภายใต้หลักความยั่งยืนหรือ ESG เราพร้อมอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยและรัฐบาลในทุกประเทศที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ตลอดจนร่วมมือกับประชาคมโลก เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการพัฒนาแผนงานเชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของการประชุม COP26 ที่ผ่านมา”