ผุด การ์เดนเซ็นเตอร์ “แอร์ ออร์คิดส์ฯ” มากกว่า สวนกล้วยไม้

“กล้วยไม้ไทย” ยังครองแชมป์ส่งออกอันดับหนึ่งของโลกมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาทต่อปี ด้วยความโดดเด่นทั้งด้านสีสันและรูปร่างของดอกกล้วยไม้เมืองร้อนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ

แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ช่วง 2 ปีมานี้ แต่ละประเทศปิดน่านฟ้าทำให้การส่งออกหยุดชะงักทันที “ประชาชาติธุรกิจ”มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “นายพันธพัฒน์ คุ้มวิเชียร” ประธานกรรมการบริหาร แอร์ ออร์คิดส์ แอนด์ แลบ (AIR ORCHIDS & LAB) ธุรกิจสวนเกษตรอายุ 4 ทศวรรษ ถึงการปรับโมเดลธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด

อาณาจักรแอร์ ออร์คิดส์ฯ

แอร์ ออร์คิดส์ฯ จากสวนเกษตรเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 200 ไร่ จังหวัดนครปฐม ปัจจุบัน เราพัฒนาเป็นสวนกล้วยไม้ครบวงจรที่มีหลากหลายพันธุ์ จนเป็นที่รู้จักของผู้ที่ชื่นชอบกล้วยไม้ ในช่วงที่เริ่มทำธุรกิจเราเริ่มจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสายพันธุ์กล้วยไม้ในห้องแล็บ

ควบคุมการขยายพันธุ์ที่ได้มาตรฐานภายใต้โรงเรือน และการเพาะเลี้ยงที่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) จนปัจจุบันมีกล้วยไม้สกุลหวายลูกผสมกว่า 4,000 สายพันธุ์

และพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร แหล่งเรียนรู้ เรียกได้ว่าทำเองหมดตั้งแต่การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อกล้วยไม้ในห้องแล็บจนสามารถเริ่มทำฟาร์มไม้ตัดดอกขาย จนเริ่มบุกเบิกพัฒนาเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต (supermarket) กล้วยไม้ในประเทศแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย เพื่อให้ทุกคนมาเลือกชมสินค้า

ADVERTISMENT

สารพัดปัจจัยลบ

เราส่งออกไปหลายประเทศ อาทิ อเมริกา กวม ฮอลแลนด์ บราซิล อิสราเอล อินเดีย ศรีลังกา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม พม่า สัดส่วนส่งออกจากเดิม 60-70% และจำหน่ายในประเทศ 30% ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กระทั่งปี 2563 การส่งออกมีปัญหาอย่างมาก

“เราพึ่งพาการขนส่งทางเครื่องบิน เมื่อทุกประเทศปิดน่านฟ้ากระทบอย่างหนักเลย เราผลิตเต็มที่แต่เราไม่สามารถส่งของไปได้ ลูกค้าก็อยากได้ของช่วงแรก ๆ วิกฤตเลย

ADVERTISMENT

หนักสุดคือต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้นประมาณ 300-500% เราก็กลับมาคิดตอนแรก ๆ เมื่อเครื่องบินมีปัญหาเราก็ควรเปลี่ยนมาขนส่งทางเรือ ซึ่งตอนนั้นเรือยังมีค่าขนส่งราคาขึ้นมาไม่เยอะ

แต่ปรากฏว่าตอนหลังเรือขึ้นมาราคาสูสีเกือบเท่ากันเลย ตอนหลังเราจึงตัดสินใจกลับมาส่งทางเครื่องบินเหมือนเดิม ถึงแม้จะแพงแต่เรายังควบคุมภายใน 2-3 วันของถึงมือลูกค้า แต่ทางเรือ 30 วัน

และต้องยอมรับว่าทางเรือมีปัญหาการขนส่ง ดีเลย์ด้วยเพราะสินค้าอื่น ๆ มารวมกันเวลาเดียวกัน เข้าพอร์ตไม่ได้ ตู้ไม่พอขนส่งหลายวันเปิดออกมาสินค้าก็เสียหาย ส่วนทางบกตลาดเพื่อนบ้านเองก็ปิดด่าน อย่างเมื่อไม่นานมานี้โควิดระลอกใหม่ก็ทำให้เพื่อนบ้านปิดด่านลาว เขมร เวียดนาม ซึ่งตอนนี้ก็ยังส่งไปไม่ได้”

ปรับตัวสู้วิกฤต

ปัจจุบันบริษัทปรับสัดส่วนการขายเป็น 50 : 50 เพิ่มยอดขายในประเทศให้มากขึ้นโดยใช้กลยุทธ์ขยายตลาด ปรับทุกทางทั้งขายผ่านพ่อค้าแม่ค้าขายปลีกตามหัวเมืองใหญ่ ส่งขายตลาดต้นไม้ทั่วประเทศ

และการเพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์ การบริการดีลิเวอรี่แบบส่งด่วนพิเศษเพื่อส่งเป็นของขวัญหรือบริการสำหรับลูกค้าที่หิ้วต้นไม้กลับบ้านเองไม่ไหว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีเลย

ทำให้ระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่มีการระบาดของโควิด-19 แอร์ ออร์คิดส์ฯปรับตัวอยู่กับโควิด-19 ได้

เพราะมีจุดแข็ง 1.เราทำธุรกิจกล้วยไม้ครบวงจร มีพ่อแม่พันธุ์กล้วยไม้เอง มีห้องแล็บเพาะเนื้อเยื้อ มีพื้นที่ทำสวนกล้วยไม้กว้างรองรับฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงของไทย 2.กล้วยไม้ของแอร์ออร์คิดส์ฯมีเอกลักษณ์เพราะเราเพาะเนื้อเยื่อเอง ส่วนรายได้หลักล้านทุกเดือนทั้งในและต่างประเทศ

โควิดคือโอกาสปรับปรุงพันธุ์

“ช่วงการระบาดของโควิด-19 ถือว่าหนักพอสมควร แต่ก็ทำให้ทางสวนเองมีโอกาสในการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ที่สำคัญตอนนี้ เรากำลังปรับโฉมธุรกิจนอกจากกล้วยไม้แล้ว

ต้องขยายขายไม้ดอกไม้ประดับบางชนิดเข้ามาเสริม เช่น แคกตัส ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยกลุ่มไม้ด่าง ซึ่งเป็นกระแสและเราจะมีทีมแล็บพัฒนาพันธุ์ ผสมพันธุ์ให้ได้สี พันธุ์ใหม่ ๆออกมาเอง”

“เรากำลังปรับรูปแบบธุรกิจ ไม่อยากให้คิดว่ามีแค่กล้วยไม้ เราแตกไลน์ธุรกิจจาก Air Orchids Supermarket สู่ Air Orchids Garden Center ครบวงจรขึ้นไปอีก อยากจะต่อยอดสู่ฟาร์มทัวร์ด้วย และมี Air Orchid & Backyard จากที่มีคาเฟ่เพิ่มมุมถ่ายรูปดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วย”

วางเป้าปี 2565

ปี 2565 แน่นอนแอร์ ออร์คิดส์ฯไม่หยุดพัฒนานวัตกรรม และยังมีแผนเตรียมหาพันธมิตรทางธุรกิจในและต่างประเทศที่ต้องการเป็นเจ้าของฟาร์มกล้วยไม้ที่จำหน่ายในประเทศและต่างประเทศ

โดยแอร์ ออร์คิดส์ฯจะเป็นที่ปรึกษา นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเลี้ยงกล้วยไม้ที่แอร์ ออร์คิดส์ฯประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับ เพื่อนำกล้วยไม้ขวด (flask) ไปเพาะเลี้ยงและส่งขายในระดับโลก

โดยแอร์ ออร์คิดส์ฯจะช่วยลูกค้าต่างประเทศที่อยากปลูกและเป็นเจ้าของฟาร์มกล้วยไม้นำจุดแข็งที่มีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กล้วยไม้ที่ดี สามารถผสมพันธุ์ใหม่ได้เองและมีการพัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง

สามารถผสมพันธุ์กล้วยไม้ได้เนื้อเยื่อที่ได้ราคาดีที่สุดในโลก พร้อมแตกไลน์บริการเป็นที่ปรึกษาในการทำฟาร์มกล้วยไม้ในต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน โควิด-19 ยังมีผลอยู่กับตลาดส่งออก เราก็พัฒนาการทำซูเปอร์มาร์เก็ตกล้วยไม้โดยตั้งเป้าเป็นผู้พัฒนาตลาดไม้กระถาง หรือ potted plant ขายในรูปแบบกระเช้าสวยงาม และแพ็กเกจจิ้งอื่น ๆ แทนการตัดดอกขายเพียงอย่างเดียว สำหรับตลาดภายในประเทศด้วย

เฝ้าระวัง “โอไมครอน”

ตอนแรกเลยยอมรับเลยว่าระแวง 90% แต่ตอนนี้ดูจากแนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อลดลง ดูมาตรการของจังหวัดเองก็พบว่าลดลง และมาตรการภาครัฐก็สามารถควบคุมการระบาดได้ เราก็ลดความกังวลลง 50% ผมมองว่าการระบาดรอบ 5 น้อยลงแล้ว ถ้าย้อนกลับไปช่วงโควิดระบาดแรก ๆ

เราก็ปรับตัวตั้งแต่การแพ็กของให้สวย คุณภาพที่ดีที่สุด การขนส่งมีการขอเรตพิเศษ ปัจจุบันเราใช้บริหารขนส่งถึงหน้าบ้าน จากเดิมที่ส่งทางรถบรรทุกเพียงอย่างเดียว ตอนนี้กังวลปัญหาแรงงานมากกว่าเพราะส่วนใหญ่เราใช้แรงงานต่างด้าวซึ่งยังขาดแคลน

“ตอนนี้ความหวังของเราและเกษตรกรมองไปปี 2565 พร้อมป้อนตลาด ต้องบอกก่อนว่าวงจรกล้วยไม้ใช้เวลาผลิต 2-4 ปี เพราะฉะนั้น เราหยุดไม่ได้เลยตรงนี้”

รัฐช่วยหนุนวงการกล้วยไม้

ในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจเราก็ได้รับผลกระทบหนักเลยเช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ เราได้ยื่นหนังสือถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ช่วยสนับสนุนจัดงาน ซึ่งเราเป็นสมาชิกสมาคมกล้วยไม้ สหกรณ์ด้วย ทางภาครัฐได้ใช้สินค้าไปจัดงาน

สนับสนุนงานกล้วยไม้สัญจร อีเวนต์ต่าง ๆ เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้รอให้ภาครัฐพิจารณาเยียวยาผลกระทบเหมือนกับสินค้าเกษตรอื่น อยากให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกล้วยไม้ไทยซึ่งเป็นแหล่งผลิตส่งออกเบอร์ 1 ของโลก

หากรวมธุรกิจเกี่ยวเนื่องต่าง ๆ สามารถทำรายได้เข้าประเทศมากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี คู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ จีน อิตาลี ส่วนพันธุ์กล้วยไม้ที่มีปริมาณการส่งออกมากที่สุด

ได้แก่ กล้วยไม้สกุลหวาย ออนซิเดียม มอกคารา แวนด้า อะแรนด้า และยังมีพวกกิ่งชากล้วยไม้ทั้งแบบที่มีรากและไม่มีราก ต้นกล้า กล้วยไม้และต้นกล้วยไม้ด้วย

“ผมเชื่อว่าตลาดกล้วยไม้ไม่มีวันตันเพราะลูกค้าในตลาดโลกยังสนใจและชื่นชอบดอกกล้วยไม้มาก ดังนั้น การที่แอร์ ออร์คิดส์ฯจะเดินหน้าไปสู่ตลาดโลก หรือเกษตรกรรายย่อยผู้ที่ปลูกกล้วยไม้จะสามารถเติบโตจนส่งออกในตลาดโลกได้

อยากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพราะที่ผ่านมา 2 ปีเราเผชิญวิกฤตโควิด แต่ทำให้เห็นว่าเป็นบทเรียนการประคองธุรกิจ เราไม่หยุดพัฒนา และไม่มีการเลย์เอาต์พนักงาน เราหวังว่าปี 2565 ตลาดการท่องเที่ยวจะกลับมา ต่างประเทศฟื้นตัวใกล้เคียงปี 2562”