มนัญญา จี้กรมวิชาการเกษตร คุมคุณภาพทุเรียน มังคุด พร้อมบุกจีน 1.3 ล้านตัน

มนัญญา สั่งกรมวิชาการเกษตรรักษาคุณภาพสินค้า 28 ม.ค.นี้ ลงพื้นที่จันทบุรีติวผู้ประกอบการผลไม้ภาคตะวันออกเตรียมส่งออกผลไม้ไปจีน ย้ำเฝ้าระวังศัตรูพืชติดไปกับผลไม้ ปนเปื้อนเชื้อโควิด-19 หากจีนตรวจพบจะทำลาย ระงับนำเข้าทันที คาดปีนี้ทุเรียน มังคุด ลำไย พร้อมป้อนตลาด 1.3 ล้านตัน รายได้ 1 แสนล้านบาท  

วันที่ 26 มกราคม 2565 มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานของกรมวิชาการเกษตร ว่า ปีนี้ได้เน้นย้ำในการสร้างความมั่นใจในการส่งออกสินค้าเกษตร

ซึ่งกรมวิชาการเกษตรในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการส่งออกสินค้าเกษตรให้เป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศคู่ค้า ต้องรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของศัตรูพืชไม่ให้ติดปนเปื้อนไปกับสินค้า รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการส่งออกผลไม้ในฤดูถัดไป นอกจากนี้ ยังได้มอบแนวทางในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติเฝ้าระวังศัตรูพืชกักกัน หรือห้องแล็บที่ด่านโดยเฉพาะ จ.หนองคาย

ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดตั้งงบประมาณในปี 2566 แล้ว อีกทั้งยังเน้นย้ำในเรื่องการวิจัยพัฒนาต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ควรถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ที่ใช้ประโยชน์จริง และติดตามงานวิจัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ ในวันที่ 28 มกราคม 2565 จะเป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายแนวทางการส่งออกผลไม้ร่วมสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นหน่วยงานในส่วนภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร โดยกรมวิชาการเกษตรจะจัดประชุมชี้แจงสร้างการรับรู้แนวทางการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการส่งออกผลไม้ในฤดูกาลผลิตปี 2565 แก่ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ภาคตะวันออก หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง กำชับให้วางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ไปประเทศจีน ตลอดจนการป้องกันผลผลิตด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด

ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจในหลักเกณฑ์ กฎระเบียบ และขั้นตอนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรในการตรวจติดตาม เฝ้าระวัง และควบคุมการส่งออกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

โดยในช่วงที่ผ่านมาผลผลิตลำไยของจังหวัดจันทบุรีประสบปัญหาตรวจพบศัตรูพืช ทำให้จีนระงับการนำเข้าลำไยจากโรงคัดบรรจุที่ได้รับการแจ้งเตือน โดยทางการจีนขอให้กรมวิชาการเกษตรระงับการส่งออกชั่วคราวกับโรงคัดบรรจุที่ถูกแจ้งเตือนดังกล่าว เพื่อสอบสวนหาสาเหตุและกำหนดมาตรการควบคุมให้ทางการจีนพิจารณา

ซึ่งจากการที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา ทำให้ปัจจุบันสามารถส่งออกได้ตามปกติ ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีกในฤดูกาลส่งออกทุเรียนและมังคุดของจังหวัดจันทบุรี

กรมวิชาการเกษตรจึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบผลผลิตเพื่อป้องกันปัญหาศัตรูพืชควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสร้างการรับรู้และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องตั้งแต่ที่สวนให้แก่เกษตรกร  พร้อมกับเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามแนวทางของ FAO และ WHO ในโรงคัดบรรจุอย่างเคร่งครัด   โดยหากจีนตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในสินค้าผลไม้ของไทยสินค้าจะถูกทำลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของผลไม้ไทยในประเทศจีนอีกด้วย

นายภัชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลส่งออกผลไม้ภาคตะวันออกในปี 2565 นี้ กรมวิชาการเกษตรได้มีการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงคัดบรรจุพื้นที่ภาคตะวันออก

โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี สมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด (DMA) และสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ (MAFTA) จัดฝึกอบรมมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงคัดบรรจุให้กับผู้ประกอบการและผู้ควบคุมคุณภาพประจำโรงคัดบรรจุจำนวน 400 คน รวมทั้งจัดทำคู่มือและคลิปวิดีโอ การบริหารจัดการโรงคัดบรรจุที่ถูกต้องตามมาตรฐาน GMP และมาตรการป้องกันโควิด-19 ในโรงคัดบรรจุเพื่อให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

กรมวิชาการเกษตรมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุเข้าใจในกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ ในการส่งออกผลไม้ โดยจะมีการเพิ่มมาตรการในการตรวจติดตามโรงคัดบรรจุ GMP Plus (มาตรการ GMP + COVID-19 ) ควบคู่กับมาตรการตรวจสอบคุณภาพทุเรียนเพื่อป้องกันทุเรียนด้อยคุณภาพปะปนไปในช่วงต้นฤดู

ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทุเรียนตกต่ำและผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นในคุณภาพของทุเรียนไทย  รวมทั้งได้เตรียมแผนรองรับการตรวจปิดตู้คอนเทนเนอร์ของด่านตรวจพืช และการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช (PC) โดยเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในช่วงเวลาดังกล่าวมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอีกหนึ่งเท่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้การส่งออกมีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลการเพาะปลูกไม้ผลในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ จันทบุรี ระยอง และตราด มีการปลูกไม้ผลส่งออกที่สำคัญ 3 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด และลำไย พื้นที่รวมกว่า 7 แสนไร่ คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีผลผลิตส่งออกประมาณ 1.3 ล้านตัน ทำรายได้เข้าประเทศเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท โดยลำไยอยู่ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว


ส่วนทุเรียนและมังคุดผลผลิตจะออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ และมากที่สุดในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ซึ่งผลผลิตเกือบทั้งหมดจะส่งออกประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดหลัก ปัจจุบันมีโรงงานผลิตสินค้าพืชหรือโรงคัดบรรจุผลไม้ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตรรวมจำนวนทั้งสิ้น 1,790 โรง โดยในภาคตะวันออกมีโรงคัดบรรจุผลไม้ส่งออกรวมทั้งสิ้น 702 โรง ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี 630 โรง