รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ติดตามสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-มันสำปะหลัง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมาถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังที่สำคัญของประเทศ สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขณะนี้มีผลผลิต ออกสู่ตลาดแล้วกว่าร้อยละ 60 ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาตรการรักษาเสถียรภาพด้านราคา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยได้ขอความร่วมมือโรงงานอาหารสัตว์รับซื้อข้าวโพดเมล็ด ความชื้น 14.5 % ในราคา 8 บาท/กก. ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล และให้มีการบริหารจัดการคิวรับซื้อและเปิดช่องทางพิเศษให้แก่กลุ่มเกษตร รวมทั้งมาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในอัตรา 1 : 3 ซึ่งในการลงพื้นที่ ในครั้งนี้ได้เยี่ยมชมและติดตามสถานการณ์การรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ร้านตรงพานิช ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในพื้นที่อำเภอปากช่อง มีกำลังการรับซื้อจากเกษตรกรได้ประมาณ 2,000 ตัน/วัน จากการติดตามสถานการณ์ด้านราคาปัจจุบันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ผู้รวบรวมรับซื้อในพื้นที่ ณ ความชื้น 14.5% อยู่ที่ 8.50 บาท/กก. ซึ่งมีราคาสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีราคา 6.50 – 6.80 บาท/กก.

นอกจากนี้ ได้ติดตามสถานการณ์การรับซื้อมันสำปะหลัง เริ่มออกสู่ตลาดแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา และตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไปจนถึงต้นปีหน้าจะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกกระจุกตัว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไว้แล้ว จึงได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตและการค้า มันสำปะหลัง พร้อมพบปะพี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการ ณ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมาของ บริษัทเอี่ยมธงชัย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตแป้งมันสำปะหลัง ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมแป้งมันที่ยาวนาน มีการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพของแป้งมันสำปะหลังเรื่อยมา ปัจจุบันได้มีการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตที่มีความก้าวหน้า ทันสมัย ในการผลิตแป้งมันสำปะหลังคุณภาพสูง ส่งผลให้ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังในประเทศไทย โดยมีปริมาณการผลิตประมาณ 450 ตัน/วัน และส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ อาทิ จีน อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น ยังได้พบปะพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เพื่อติดตามสถานการณ์การเพาะปลูก รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นที่จะเป็นประโยชน์ในการดำเนินมาตรการของรัฐบาล