เศรษฐกิจในประเทศ

ซีพีชนะคดีฟ้องหมิ่นประมาทเพจ “ตาสว่าง”

ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา ซี.พี.ชนะคดีฟ้องหมิ่นประมาทจำคุก 2 ปี และปรับ 100,000 บาท นายสถิต โคกศรี เจ้าของเพจ “ตาสว่าง”

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 รายงานข่าวจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยแถลงการณ์ ว่า ตามที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) โดย บมจ.ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสถิต โคกศรี สมาชิกเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อบัญชีผู้ใช้ว่า “ตาสว่าง” ในข้อหา “หมิ่นประมาทและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2561

จากกรณีที่นายสถิต โคกศรี หมิ่นประมาทกล่าวใส่ร้ายบริษัท กระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยการโฆษณาคลิปวิดีโอบันทึกภาพ บันทึกเสียง โดยบิดเบือนข้อมูลว่า ซี.พี.ได้ใช้อาหารและสารเคมีต้องห้ามตามกฎหมายในการเลี้ยงไก่อย่างไม่ถูกต้อง และเลี้ยงไก่โดยใช้ฮอร์โมนเข้าไปทำให้ไก่โตไวผิดปกติ และกล่าวหาว่าซีพีประกอบธุรกิจเกษตรพันธสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม เอารัดเอาเปรียบเกษตรกร

โดยจากการสืบพยานของศาลอาญากรุงเทพใต้ พบว่าคำบิดเบือนของเพจตาสว่าง ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งพบข้อเท็จจริงอีกว่า การใช้ฮอร์โมนในการเลี้ยงไก่ เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย และ ซี.พี.ประกอบธุรกิจตามหลักกฎหมาย และตามหลักธรรมาภิบาลมาโดยตลอด รวมถึงได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรเป็นอย่างดี

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้พิพากษาแล้วว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 50,000 บาท รวมจำคุก 2 ปี และปรับ 100,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และปรับ 50,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30