พาณิชย์ผนึกกำลังภาคเอกชนจัดงานลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ “รวมใจ..เพิ่มสุข..ช้อปสนุก..ลดรับปีใหม่”

พาณิชย์ผนึกกำลังภาคเอกชนจัดงานลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อ “รวมใจ..เพิ่มสุข..ช้อปสนุก..ลดรับปีใหม่” หวังลดค่าครองชีพ 10,500 ล้านบาท

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลให้ความสนใจในการดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย และที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการจัดงานลดราคาสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่มาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 2557 ปี 2558 และปี 2559 โดยในปี 2557 จัดระหว่างวันที่ 24 – 30 ธันวาคม 2557 รวม 7 วัน ในปี 2558 จัดระหว่างวันที่ 17 – 27 ธันวาคม 2558 รวม 11 วัน และในปี 2559 จัดระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2559 – 4 มกราคม 2560 รวม 21 วัน

โดยการจัดงานลดราคาจำหน่ายสินค้าในครั้งนี้ จะเป็นการลดราคาจำหน่ายสินค้าทุกชั้น ทุกแผนก ลดสูงสุดถึงร้อยละ 80 สินค้าที่เข้าร่วมการจัดงานเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา มากกว่า 10,000 รายการ ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องนอน เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง รวมถึง สินค้า OTOP สินค้าชุมชน สินค้าจากผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้ชื่อ “รวมใจ..เพิ่มสุข..ช้อปสนุก..ลดรับปีใหม่” ระหว่างวันที่ 14 ธันวาคม 2560 – 4 มกราคม 2561 รวม 22 วัน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับภาคเอกชน จำนวน 53 ราย ประกอบด้วย สมาคม 3 สมาคม คือ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าส่ง – ปลีกไทย และสมาคมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ จำนวน 35 ราย อาทิ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น และห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ จำนวน 15 รายทุกสาขากว่า 15,000 สาขาทั่วประเทศ และจะมีร้านค้าปลีกท้องถิ่น ผู้ประกอบการ SMEs ผู้ผลิตสินค้า OTOP และผู้ประกอบการสินค้าออนไลน์ อาทิ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) บริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำกัด บริษัท ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด บริษัท สหลอว์สัน จำกัด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และบริษัท อิออน (ไทยแลนด์) จำกัด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์คาดว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะมียอดขายสินค้าไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท สามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เฉลี่ยร้อยละ 30 หรือคิดเป็นเงินประมาณ 10,500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย