AGE ปี’64 กำไรพุ่ง 158% แตะ 638 ล้าน ปี’65 เป้ารายได้ 15,000 ล้าน

เอเชีย กรีน เอนเนอจี (“AGE”) ท็อปฟอร์ม ประกาศงบOผลการดำเนินงานปี 2564 โชว์ยอดขายถ่านหินพุ่งทำนิวไฮ แตะ 5.1 ล้านตัน รายได้โลจิสติกส์โดดเด่นที่ 2,002 ล้านบาท รายได้รวมเพิ่มขึ้น 63% ที่ 12,883 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ แตะ 638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 158% ประกาศตั้งเป้ารายได้รวมปี’65 ที่ 15,000 ล้านบาท และมียอดขายถ่านหิน 6.5 ล้านตัน

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (“AGE”) ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) และผู้ให้บริการด้านโลจิสติสก์แบบครบวงจร ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหินในปี 2565 ปัจจุบันมีสัญญาณความต้องการใช้ถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ยังมีต่อเนื่อง เพราะถ่านหินถือเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนที่ต่ำ เมื่อเทียบกับต้นทุนเชื้อเพลิงจากชนิดอื่น ๆ บริษัทคาดการณ์ว่าการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย ยังมีปริมาณที่คงที่ ในอีก 5 ปีข้างหน้า

พนม ควรสถาพร

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของ “AGE” ในปี 2565 นั้น บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดธุรกิจถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งการขยายธุรกิจด้านโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำ-ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า โดยขยายการให้บริการขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และได้มีการเซ็นสัญญาการให้บริการขนส่งสินค้าล่วงหน้า จำนวน 3 ล้านตันในเวลา 3 ปี ส่งผลให้บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2565 ที่ระดับ 15,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปริมาณยอดขายถ่านหิน 6.5 ล้านตัน

ทั้งนี้ บริษัทแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ “AGE” มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเป็นผลมาจากการขยายยอดขายถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มขึ้น และรายได้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่ “AGE” เป็นผู้ประกอบการจัดหา และจัดจำหน่ายถ่านหิน สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ ที่มีความพร้อมทั้งด้านการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีระบบโลจิสติสก์ที่ครบวงจร ทำให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าราคาถ่านหินโลกช่วงปีที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างสูง

โดยในปี 2564 มีรายได้รวมจากธุรกิจถ่านหิน และธุรกิจการให้บริการ โลจิสติกส์ 12,883.6 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 63.1% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 638 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 157.6% เมื่อเทียบกับ 2563 ซึ่งผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

อัตราการเติบโตดังกล่าวแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ธุรกิจถ่านหิน 12,413.7 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 64.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมียอดขายถ่านหินในต่างประเทศ อยู่ที่ 0.3 ล้านตัน ลดลง 48.61% เมื่อเทียบกับปี 2563 และปริมาณยอดขายถ่านหินในประเทศ อยู่ระดับ 4.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีปริมาณยอดขายถ่านหินรวมอยู่ที่ 5.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับปี 2563 นับว่าเป็นสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์มีการขยายตัวอย่างโดดเด่นมาก โดยในปี 2564 มีรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ 2,002 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 40% เมื่อเทียบกับ 2563 โดยแบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการกับกลุ่มบริษัทในเครือ AGE จำนวน 1,532 ล้านบาท และรายได้จากให้บริการกับกลุ่มลูกค้าภายนอก 470 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วยรายได้การให้บริการบริษัทในเครือที่ 76.5% และให้บริการกลุ่มลูกค้าภายนอกที่ 23.5%

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล แบ่งเป็นการจ่ายจากหุ้นปันผลในอัตรา 8 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายหุ้นปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0625 บาท และจ่ายปันผลเป็น เงินสด ในอัตรา 0.2070 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้มีอัตราการจ่ายปันผลรวม 0.2695 บาท/หุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 14 มีนาคม และเตรียมจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 17 พฤษภาคม ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำศักยภาพทางการเงินของบริษัทที่แข็งแกร่ง