“พาณิชย์” จัดสัมมนาแนะเพิ่มโอกาสค้าของไทย หลังเอฟทีเออาเซียน-จีน เต็ม 100% ต้นปี’61

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมจัดงานสัมมนาใหญ่ ในวันที่ 25 ธันวาคม 2560 ณ โรงแรมเซนทารา แกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยมีนางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง ‘โอกาสทางการค้าของไทยบนเส้นทางสายไหม : ผ่าน FTA อาเซียน-จีน และอาเซียน-ฮ่องกง’ เพื่อถ่ายทอดมุมมองและนโยบายของภาครัฐถึงโอกาสที่ไทยจะได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับจีนและฮ่องกง จากเอฟทีเอที่เกิดขึ้น และเตรียมผู้ประกอบการไทยให้สามารถได้ประโยชน์เต็มที่จาก เอฟทีเอ พร้อมช่องทางช่วยเหลือเยียวยาหากเกิดผลกระทบ จากนั้น นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะกล่าวถึงมุมมองของภาคเอกชนต่อการเสริมสร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจไทย-จีน-ฮ่องกง

นอกจากนี้ ยังมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ประกอบการไทยทั้งรายใหญ่ และรายย่อยจากหลายสาขามาร่วมกันถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงในการทำธุรกิจกับจีนและฮ่องกง เช่น นายเกษมสันต์ วีระกุล นักวิชาการอิสระ นายณัฐพล เตชวิทักษ์ บริษัท ล็อกซ์เลย์ จำกัด (มหาชน) นายสิทธิชัย จิวัฒน์ธนากุล ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพสาขาฮ่องกง นายธีระทัศน์ รังสิวรโรจน์ บริษัทเซี่ยงไฮ้ วันจักร จำกัด นายพัฒนาพงศ์ รานุรักษ์ ดิวนาสปา และคุณนทีทอง ทองไทย ไทยฟาร์มเฟรช เป็นต้น

ทั้งนี้ งานสัมมนาครั้งนี้จะเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการของไทยที่จะได้รับทราบข้อมูลเชิงลึก ทิศทางเศรษฐกิจ และปัจจัยกระทบพฤติกรรมการบริโภคในตลาดจีนและฮ่องกง รวมทั้งข้อแนะนำจากผู้ประกอบการตัวจริง เพื่อผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดย่อม ซึ่งมีบทบาทสำคัญในขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ใช้ประโยชน์เต็มที่จากเอฟทีเอ อาเซียน-จีน ที่มีผลบังคับใช้และทยอยลดภาษีมาแล้วตั้งแต่ปี 2546 และจะลดภาษีลอตสุดท้ายในวันที่ 1 มกราคม 2561 รวมทั้งจากความตกลงเอฟทีเออาเซียน-ฮ่องกง ซึ่งเป็นความตกลงฉบับล่าสุดที่จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562

เอฟทีเออาเซียน-จีน ที่บังคับใช้มาแล้วกว่า 12 ปี เป็นเครื่องมือสำคัญที่ยกระดับให้การค้าไทย-จีนในปัจจุบัน มีมูลค่าสูงกว่า 6.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และช่วยเพิ่มการส่งออกสินค้าศักยภาพของไทยไปจีนมากขึ้น เช่น ข้าว ยางพาราและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์ประมง เม็ดพลาสติก และคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เป็นต้น นอกจากนี้ ไทย-จีน-ฮ่องกง ยังสามารถร่วมมือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี ) ของไทยกับนโยบาย “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) ของจีน และเขตเศรษฐกิจใหม่ (ฮ่องกง มาเก๊า และมณฑลกว้างตุ้ง) หรือ Greater Bay Area ของฮ่องกง

 

ที่มา : มติชนออนไลน์