ครม. ไฟเขียว ต่ออายุใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ออกไปอีก 2 ปี แก้ปัญหานายจ้างขาดแคลนแรงงาน
วันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) ซึ่งเข้ามาทำงานตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน (MOU) ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงาน (Agreement) ในปี 2561
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
ซึ่งมีวาระการจ้างงานครบ 4 ปี ในปีนี้ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565 ให้ให้สามารถดำเนินการขออนุญาตทำงานหรือขอต่ออายุใบทำงานและขอรับการตรวจอนุญาตให้อยู่เป็นการชั่วคราวต่อไปได้อีกไม่เกิน 2 ปี โดยไม่ต้องเดินทางกลับออกไป
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่คนต่างด้าวไม่สามารถเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยได้โดยสะดวกในขณะนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเป็นการตอบสนองต่อนายจ้างหรือผู้ประกอบการที่ยังมีความต้องการแรงงานที่เป็นคนต่างด้าว เพื่อให้ภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
ทั้งยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณสุขของประเทศในการป้องกันการแพร่ระบาด ระลอกใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
นายธนกรกล่าวว่า ครม.ได้อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การยกเว้นข้อห้ามมิให้คนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการทำงานสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาวและเมียนมา
ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ …. เพื่อให้คนต่างด้าวดังกล่าวสามารถอยู่ในราชอาณาจักรต่อไปได้เป็นกรณีพิเศษอีก 6 เดือน เพื่อดำเนินการขออนุญาตทำงานหรือต่ออายุใบอนุญาตทำงาน อีกไม่เกิน 2 ปีต่อไป
ซึ่งปัจจุบันมีคนต่างด้าว ภายใต้ MOU ในวาระการจ้างงานจะครบ 4 ปี จำนวนทั้งสิ้น 106,580 คน กัมพูชา 26,840 คน ลาว 25,504 คน เมียนมา 54,236 คน ทั้งนี้ ทางการของประเทศกัมพูชา ลาวและเมียนมา ก็ได้มีหนังสือ เห็นชอบกับการดำเนินการดังกล่าวด้วยแล้ว