เวิลด์แก๊ส ผนึกพันธมิตรรุกธุรกิจใหม่ปั๊ม 1.2 หมื่นล้าน

WP ปั๊มยอดขายปี’65 โตต่อเนื่องทะลุหมื่นล้าน รับส้มหล่นรัสเซีย-ยูเครนดันราคาพลังงานโลกพุ่ง กางแผนรุกส่งออก LPG เวียดนาม แตกไลน์ธุรกิจซ่อมถังแก๊ส ไฟฟ้าโซลาร์พลังงานสะอาด ชูกลยุทธ์ใหม่ทรานส์ฟอร์มธุรกิจเติบโตแบบยั่งยืน

นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ เวิลด์แก๊ส กล่าวว่า บริษัทได้ปรับทิศทางธุรกิจปี 2565 มุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตที่ยั่งยืน (transformation for sustainable growth) เสริมความแข็งแกร่งธุรกิจหลักอย่างก๊าซ LPG ควบคู่การลงทุนในธุรกิจใหม่ที่หลากหลาย

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือพันธมิตรเพื่อแสวงหาการลงทุนในธุรกิจพลังงานใหม่ ๆ ซึ่งคาดการณ์การดำเนินงานตามกลยุทธ์ใหม่จะช่วยเพิ่มรายได้ปี 2565 เติบโตเพิ่ม 5% หรือ 12,000 ล้านบาทจากปี 2564 ที่รายได้รวม 11,540 ล้านบาท และผลกำไร 88 ล้านบาท

“ปีนี้คาดว่าภาพรวมธุรกิจจะเติบโต ขยายตัวมากกว่าปีที่ผ่านมา 5% จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมตามกลยุทธ์ที่วางไว้ สถานการณ์โควิดดีขึ้น และได้รับอานิสงส์ภาคครัวเรือนจากราคาพลังงานโลกที่สูงขึ้นหลังสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน

“แม้ว่ามาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้มของรัฐบาลที่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นเป็นถังละ 333 บาท ในวันที่ 1 เม.ย. 2565 อาจจะส่งผลกระทบต่อปริมาณความต้องการซื้อบ้าง แต่ไม่มากนัก นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการส่งออกมากขึ้น หลังจากเทรดดิ้งเข้าเวียดนาม และมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานใหม่ ๆ”

สำหรับยอดขายในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการขยายจุดกระจายสินค้า และขยายการส่งออกก๊าซแอลพีจีสู่ตลาดเวียดนาม ในรูปแบบของธุรกิจเทรดดิ้งปริมาณกว่า 18,500 ตัน รวมถึงสามารถขยายธุรกิจใหม่ ๆ เช่น ธุรกิจซ่อมถัง และก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างเต็มตัว

โดยมีการเซ็นสัญญากับบริษัทคู่ค้าเพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป กำลังการผลิตรวม 6 เมกะวัตต์ การเริ่มใช้งานคลังเก็บและจ่ายก๊าซบางปะกง เฟส 3 เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองก๊าซแอลพีจีในคลังให้เป็น 2% ของปริมาณการค้าประจำปี ตามนโยบายรัฐของกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อเสริมความมั่นคงระบบพลังงาน

ADVERTISMENT

นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและบริหารองค์กร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวมได้ 765,000 ตัน จากปีที่ผ่านมา 700,000 ตัน โดยคาดว่าจะมียอดส่งออก 25,000 ตัน สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผลประกอบการในปี 2564 มีสัดส่วนรายได้จากการขายก๊าซ LPG ซึ่งเป็นธุรกิจหลักราว 98% และรายได้อื่น ๆ ประมาณ 2% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นลูกค้าหลักเพิ่มขึ้น 20% กลุ่มลูกค้าก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้น 2% ทั้งยังมีแผนควบคุมค่าใช้จ่าและการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การบริหารการเงินและการลงทุนอย่างรอบคอบส่งผลให้สามารถทำกำไรได้

สำหรับการเปลี่ยนผ่าน ปี 2565 ตามกลยุทธ์ใหม่ 3 กลยุทธ์ ประกอบด้วย

1.ยกระดับซัพพลายเชนสู่มิติใหม่ด้านพลังงาน มุ่งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจก๊าซแอลพีจีภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาด โดยสร้างความแข็งแกร่งของซัพพลายเชน นำนวัตกรรมและดิจิทัลมาใช้เพื่อพัฒนาระบบต่าง ๆ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ลูกค้า ทั้งในกลุ่ม B2B และ B2C และเพิ่มการสื่อสารการตลาดรูปแบบใหม่ ๆ

2.ขยาย ecosystem บุกเบิกบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครบวงจร โดยอาศัยประสบการณ์กว่า 42 ปีในธุรกิจนี้ มาต่อยอดศักยภาพในการให้บริการและคำปรึกษาแก่ลูกค้า ควบคู่กับการแสวงหาและนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้บริการลูกค้าอย่างยืดหยุ่นตามความต้องการเฉพาะ และนำเสนอพลังงานทางเลือกและโซลูชั่นอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจที่แตกต่าง

และ 3.พัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ เพื่อให้เป็นทุกคำตอบของพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน ด้วยการแสวงหาธุรกิจพลังงานใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว ขยายสัดส่วนของธุรกิจพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการเซ็นสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากโซลาร์รูฟท็อปและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 20 เมกะวัตต์ ในปี 2565