ปัจจัยเสี่ยงรุม สรท. ยืนเป้าส่งออกปี65 โต 5% สวนทางพาณิชย์ตั้งเป้า 10%

ส่งออก

สรท.ยืนเป้าส่งออก 5% สวนทางให้เอกชนดันส่งออกโต 10% ในปี 65 ภายใต้ปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า ต้นทุนขนส่งพุ่ง ราคาน้ำมันผันผวน แนะผู้ส่งออกต้องปรับตัว วางกลยุทธ์ตลาดให้ดี

วันที่ 30 มีนาคม 2565 นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยในการประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 27 ว่า สภาผู้ส่งออกได้ตั้งเป้าการส่งออกของไทยในปี 2565 โตที่ 5% แต่สำหรับเป้าหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต้องการให้ส่งออกไทยในปีนี้โต 10% เป็นเป้าหมายการทำงานที่ท้าทายอย่างมาก กับภายใต้ปัจจัยผลกระทบในปัจจุบัน

ทั้งนี้ หากต้องการผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมายที่หน่วยงานรัฐต้องการให้เติบโต ภาคเอกชนจะต้องมีการวางกลยุทธ์การผลักดันการส่งออกให้ดี พร้อมทั้งมองตลาดใหม่ ๆ เพื่อขยายตลาด เช่น ซาอุดีอาระเบีย อาหรับ กาตาร์ คูเวต โอมาน หรือกลุ่มประเทศแอฟริกา เช่น อียิปต์ เคนยา กานา ตลาดเดิมก็ยังคงจะต้องขยายสัดส่วนการส่งออกให้มากขึ้น เช่น อินเดีย จีน

นอกจากนี้ ยังมองว่าไทยควรจะใช้โอกาสในข้อตกลงต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะข้อตกลงอาร์เซป ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะที่ข้อตกลงอื่น ๆ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องผลักดัน เช่น เอฟทีเอไทย-ปากีสถาน และเอฟทีเอ ไทย-อียู

“นอกจากการปรับกลยุทธ์เชิงการตลาดแล้วการปรับตัวในองค์กรหรือธุรกิจก็ยังมีความจำเป็นโดยเฉพาะในเรื่องของการติดตามข้อมูลสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ค่าขนส่ง ราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน การเมือง สงครามระหว่างประเทศ ปัญหาโควิด การนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้หรือการทำตลาดในกลุ่ม e-Commerce ก็เป็นสิ่งที่จะต้องมีการปรับตัวของผู้ประกอบการเอง”

โดยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรสำคัญในการทำธุรกิจและการปรับตัวเชิงกลยุทธ์เพื่อผลักดันการส่งออก โดยจะเห็นได้ว่าอย่างสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อสินค้าพื้นฐานอย่างสินค้าเกษตร ปุ๋ยเคมี หรือกลุ่มอาหารสัตว์

รวมไปถึงวัตถุดิบ แร่ เหล็ก ราคาน้ำมันที่เป็นปัจจัยต่อการผลิต ล้วนมีผลกระทบทำให้เอกชนจะต้องมีการเตรียมการอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งการขนส่งก็จำเป็นจะต้องมองโอกาสการขนส่งไว้หลายเส้นทางเพื่อลดปัญหาและช่วยลดต้นทุนค่าขนส่ง

นายชัยชาญกล่าวอีกว่า ในการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 ยังมองว่าเอกชนโดยเฉพาะ SMEs จะต้องมีการวางแผนรับมือกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงสภาพคล่องเพราะมองว่าจะมีโอกาสในเรื่องของการชำระหนี้ที่อาจจะล่าช้า การขนส่งอาจจะชะลอตัว เรือขนส่งเข้ามาช้าขึ้น

ประกอบกับจากภาวะต้นทุนค่าขนส่งที่มีการปรับตัว และเพื่อประคองธุรกิจไปได้ SMEs จำเป็นจะต้องหาสภาพคล่องในการประคองธุรกิจ นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมันที่มีความผันผวน เพื่อยังให้ธุรกิจสามารถดำเนินการไปได้