โควิดไม่สะเทือน “คลังทัณฑ์บน” เบสท์บอนด์มั่นใจรายได้ปี’65 ทะลุหมื่นล้าน

คลังสินค้า

เบสท์บอนด์ แวร์เฮ้าส์ ยืนหนึ่งคลังสินค้าทัณฑ์บนที่ดีที่สุดในไทย เร่งผุดแวร์เฮาส์ใหม่ 2 แสน ตร.ม. ยึด 4 ทำเลทองกระจายสินค้าเขต ศก.พิเศษ-ท่าเรือแหลมฉบังอีอีซี-พหลโยธิน กม.51-พระราม 2 ดันไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งจัดเก็บ-กระจายสินค้าแห่งภูมิภาค ปั๊มยอดปี’65 โต 30%

นายสิทธิพล เจริญขจรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบสท์บอนด์ แวร์เฮ้าส์ จำกัด ผู้นำธุรกิจให้บริการคลังสินค้าครบวงจร ด้านการจัดเก็บดูแลและขนส่งสินค้าต่าง ๆ ให้บริการรับฝากทั้งสินค้าทัณฑ์บนทั่วไปและสินค้าธรรมดา รวมทั้งอาคารคลังสินค้าให้เช่า ยาวนานกว่า 30 ปี เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิดแพร่ระบาดไม่กระทบเพราะยอดรายได้เฉลี่ยต่อปีโตขยายตัวขึ้นกว่า 30% โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ขยายตัว 30% จากปีที่ผ่านมา 10,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ได้วางงบฯการลงทุนปี 2565-2566 ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท ขยายคลังสินค้า 4 แห่ง รวมพื้นที่ 2 แสน ตร.ม. เจาะทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์การขนส่งเป็น logistics route ได้แก่ เขตเศรษฐกิจพิเศษ (special economic zone), บริเวณถนนพหลโยธิน กม.51, บริเวณถนนพระราม 2 และบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง (EEC) คาดว่าจะเริ่มแล้วเสร็จแห่งแรกภายในปลายปีนี้

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีคลังสินค้าให้บริการกระจายอยู่ตามโลเกชั่นสำคัญ ๆ ถึง 4 แห่ง ได้แก่ คลังสินค้าที่กิ่งแก้ว ขนาดพื้นที่ 50,000 ตร.ม., คลังสินค้านวนคร ขนาดพื้นที่ 100,000 ตร.ม., คลังสินค้าพระราม 3 ขนาดพื้นที่ 4,000 ตร.ม. และคลังสินค้าที่บางนา กม.18 ขนาด 20,000 ตร.ม.

อีกทั้งยังมุ่งพัฒนาประสิทธิภาพการบริการให้รวดเร็วและแม่นยำ เพื่อเป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่ให้บริการคลังสินค้าครบวงจร ด้านการจัดเก็บดูแลและขนส่งสินค้าต่าง ๆ ให้กับลูกค้ามากกว่า 200 บริษัท ได้แก่ บริการรับฝากสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป, บริการรับฝากสินค้าทั่วไป และคลังสินค้าให้เช่า, บริการรับฝากสินค้าในห้องรักษาอุณหภูมิ (ห้องเย็นอุณหภูมิ 18-22 องศาเซลเซียส), คลังสินค้าฮาลาล, คลังสินค้าเคมี, บริการเดินพิธีการศุลกากร, บริการขนส่งสินค้า ฯลฯ

บริการใหม่ที่ได้เปิดดำเนินการ e-Fulfillment warehouse เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีการค้าแบบออนไลน์ e-Fulfillment center โดยบริษัทยังได้จับมือกับ SCG Express เพื่อกระจายสินค้า ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งจัดเก็บ-กระจายสินค้าแห่งภูมิภาค

Advertisment

“เราช่วยลูกค้าลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ด้วยระบบบริหารงานที่มีคุณภาพและทีมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่มีศักยภาพ รวมทั้งระบบการจัดเก็บสินค้าที่ดีและได้มาตรฐาน ที่มีความทันสมัยด้วยระบบคอมพิวเตอร์ บริหารงานคลังสินค้าโดยเฉพาะ การจัดเก็บจึงมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจเช็กสินค้าได้อย่างถูกต้อง ยิ่งกว่านั้น เบสท์บอนด์ แวร์เฮ้าส์ ยังนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้บริหารงานคลังสินค้า ทำให้กรมศุลกากรเลือกให้บริษัทเป็นโครงการต้นแบบในการใช้ซอฟต์แวร์บริหารจัดการเชื่อมข้อมูลกับหน่วยงาน”

พร้อมทั้งพัฒนาระบบบริหารสินค้า (WMS), ระบบการจัดการ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถรองรับระบบและเชื่อมต่อกับระบบของลูกค้าได้ทันที และใช้ได้ในทุกแพลตฟอร์ม และสุดท้ายเราสามารถสร้างโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าด้านต่าง ๆ และในฐานะที่เป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไปยังมีสิทธิประโยชน์ที่ต่างจากคลังสินค้าทั่วไป ได้รับสิทธิด้านอากรขาเข้าและขาออกด้วย

Advertisment

นายมนตรี กำประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบสท์บอนด์ แวร์เฮ้าส์ จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจคลังสินค้าในประเทศไทยในปัจจุบัน เนื่องจากประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าสู่ CLMV (CLMV : กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งมีพรมแดนเชื่อมต่อกัน ประเทศในอาเซียนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากการที่นักลงทุนประเทศต่าง ๆ ให้ความสนใจเข้าไปลงทุน ธุรกิจคลังสินค้ายังคงมีโอกาสอีกมากที่จะเติบโต ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในบริษัทคนไทยที่มีศักยภาพและกล้าปักธงในธุรกิจศูนย์กระจายสินค้า