ทูตพาณิชย์เบอร์ลินเดินหน้าสร้างเครือข่ายพ่อค้าแม่ค้าใน “ไทยพาร์ก”

ไทยพาร์ก

“ทูตพาณิชย์เบอร์ลิน” เดินหน้าเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายระหว่างพ่อค้าแม่ค้าใน “ไทยพาร์ก” กับผู้นำเข้า และห้างค้าปลีก คาดช่วยเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัตถุดิบอาหาร ที่มีความต้องการสูงขึ้น

วันที่ 4 เมษายน 2565 นางสาวพัชรา รัตนบุบผา อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เปิดเผยว่า สำนักงานฯได้เดินหน้าขยายโอกาสให้กับสินค้าไทยและอาหารไทยในตลาดเยอรมนี ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)

โดยได้เข้าไปช่วยเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าในตลาด “ไทยพาร์ก” กับผู้ประกอบการที่นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไทย และห้างค้าปลีกที่นำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากเอเชีย เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำธุรกิจ ช่วยลดต้นทุนให้กับพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งช่วยเพิ่มความต้องการสินค้าไทย วัตถุดิบอาหารไทย ที่จะมีผลทำให้มีการส่งออกเข้าสู่ตลาดเยอรมนีได้เพิ่มขึ้น

“สำนักงานฯได้เข้าไปช่วยเหลือ ทั้งการให้คำปรึกษา การเป็นพี่เลี้ยงให้กับสมาคมศูนย์ชุมชนชาวไทยในเบอร์ลินในการบริหารจัดการตลาดนัด “ไทยพาร์ก” และยังได้นำคณะกรรมการสมาคมฯเดินทางไปเมือง Wiesenena พบปะกับผู้บริหารบริษัท Wilai GmgH ผู้ประกอบการไทย ที่ทำธุรกิจด้านนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไทยจำพวกของขวัญ ของที่ระลึก และของตกแต่งบ้าน ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นรายใหญ่สุดของเยอรมนี เพื่อทำความรู้จักและเจรจาการสั่งซื้อสินค้านำมาจำหน่ายในไทยพาร์ก

รวมทั้งช่วยเจรจากับร้าน Vinh Loi ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกสินค้าบริโภคและอุปโภคต่าง ๆ นำเข้าจากภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย เพื่อทำธุรกิจระหว่างกลุ่มพ่อค้า แม่ค้าในตลาดไทยพาร์ก ที่จะได้ส่วนลดพิเศษ จากการซื้อสินค้าอาหารไทยและเครื่องปรุงต่าง ๆ จากร้าน Vinh Loi เพื่อมาเป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรุงอาหารขายในตลาดไทยพาร์ค” น.ส.พัชรากล่าว

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ ไทยพาร์กได้กลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา โดยเป็นตลาดนัดอาหารไทยแนว Street Food ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคยุโรป ตั้งอยู่ในสวนพรอยเซนพาร์ค สวนสาธารณะขนาดใหญ่ บนพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร ใจกลางกรุงเบอร์ลิน โดยไทยพาร์กจะเปิดขายอาหารในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ในช่วงหน้าฤดูใบไม้ผลิไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือน เม.ย.-ต.ค.) ของทุกปี

ปัจจุบันมีจำนวนพ่อค้า แม่ค้าชาวไทยกว่า 60 ราย ที่มาเปิดร้านขายอาหารไทย ทั้งเมนูคาวหวานต่าง ๆ มากมาย เช่น ส้มตำ ห่อหมก อาหารใต้ อาหารเหนือ ขนมจีน อาหารทะเลทอด ไก่สะเต๊ะ ผัดไทย เกี๊ยวนึ่ง ปอเปี๊ยะ ทอดมันปลา ขนมกล้วย ขนมฟักทอง ขนมชั้น และอื่น ๆ

ADVERTISMENT

สำหรับลูกค้ามีทั้งชาวไทย ชาวเยอรมัน และชาวต่างชาติต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในกรุงเบอร์ลินและใกล้เคียง โดยจะแวะเวียนมาวันละไม่ต่ำกว่า 10,000 คน จุดเด่นที่สำคัญของไทยพาร์ก คือ รสชาติอาหารไทยจัดจ้านแบบไทยแท้ ๆ ราคาย่อมเยา อัธยาศัยไมตรีของพ่อค้า แม่ค้าชาวไทย และทำเลที่ตั้งที่สะดวกต่อการเดินทางและการพักผ่อน

สำหรับความเป็นมาของไทยพาร์ก เริ่มต้นขึ้นในปี 1992 เมื่อครอบครัวชาวไทย-เยอรมันกลุ่มเล็ก ๆ เพียง 4 ครอบครัว มาปิกนิกด้วยกันที่สวน จากนั้นในกลุ่มหญิงไทยก็เริ่มชักชวนกันมาแบบปากต่อปาก ตลอดจนถึงหญิงชาวลาว ชาวกัมพูชา และชาวฟิลิปปินส์ จนทำให้ทุกคนมาปิกนิกที่สวนแห่งนี้เป็นประจำ และค่อย ๆ พัฒนาเป็นชุมชนกลาย ๆ แห่งหนึ่ง

ที่ทุกคนจะทำอาหารจานเด็ดของตนมาจากบ้านเพื่อแบ่งปันกันลิ้มลอง กิจกรรมที่ทุกคนโปรดปราน คือ การกินและเล่นพนัน เป็นกิจกรรมที่ทำให้ทุกคนใช้เวลาอยู่ในสวนได้ตลอดทั้งวัน เมื่อวงพนันยังไม่จบ แต่อาหารหมดเสียก่อน ก็เริ่มถามคนรอบตัวว่ามีใครมีอาหารแบ่งขายให้บ้าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งแผงขายอาหาร หลังจากนั้นไม่กี่ปี แผงขายอาหารก็เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งชาวเยอรมันและชาวต่างชาติ จนเกิดเป็น “ไทยปาร์ก” ที่เป็นที่รู้จักกันทุกวันนี้

นอกจากนี้ สมาคมศูนย์ชุมชนชาวไทยในเบอร์ลิน (Thailändischer Verein in Berlin e.V.) ยังได้รับเลือกจากรัฐบาลเบอร์ลินให้เป็นผู้ดูแลบริหารไทยปาร์ก โดยมีแนวคิดที่จะบริหารจัดการไทยปาร์กแบบใหม่ เพื่อบริหารจัดการและกำกับดูแลผู้ค้าในไทยพาร์กได้อย่างใกล้ชิด และกำหนดให้ผู้ประกอบการขายอาหารไทยในไทยปาร์กต้องขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายของเยอรมนี