จับตาน้ำมัน”พรีเมี่ยม”ผู้ค้าทำเนียนลดราคาไม่เท่ากัน

กรมธุรกิจพลังงาน ออกโรงเตือนผู้ใช้น้ำมันเกรดพรี่เมียมอีกรอบ หลังพบว่าการประกาศปรับราคาน้ำมันทุกครั้ง น้ำมันพรีเมี่ยมจะปรับลดแค่ครึ่งเดียว ผู้บริโภคต้องสอบถามให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจเติม ด้าน สนพ.รับลูกอยู่ระหว่างตรวจสอบต้นทุนน้ำมันพรีเมี่ยมขายแพงเกินเหตุหรือไม่

ภายหลังจากที่กรมธุรกิจพลังงานได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค ถึงราคาน้ำมัน “เกรดพรีเมี่ยม” ของผู้ค้าน้ำมันที่มีราคาแพงกว่าน้ำมันพื้นฐานที่ 3-4 บาท/ลิตร นั้นถือว่าเป็นการค้ากำไรเกินควรหรือไม่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้นั้น ล่าสุดมีการวิพากษ์วิจารณ์ในแวดวงผู้ค้าน้ำมันอีกว่า ทุกครั้งที่มีการประกาศปรับลดราคาน้ำมันที่นำโดยเจ้าตลาดอย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นั้นพบว่า ผู้ค้าน้ำมันที่จำหน่ายน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมจะปรับลดราคาเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ (9 ธ.ค. 60) หลังจากที่ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ประกาศปรับลดราคาน้ำมันทุกชนิด 40 สตางค์/ลิตร แต่น้ำมันพรีเมี่ยมจะลดลงเพียง20 สตางค์/ลิตรเท่านั้น ทั้งที่น้ำมันในกลุ่มนี้มีค่าการตลาด (marketing margin) ที่ค่อนข้างสูงมากอยู่แล้ว แต่ยังหาช่องเพื่อทำกำไรเพิ่มขึ้นอีก ทั้งที่ประสิทธิภาพของน้ำมันไม่ได้ต่างจากน้ำมันพื้นฐานที่จำหน่ายทั่ว ๆ ไป นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าผู้ค้าน้ำมันต่างขยายหัวจ่ายน้ำมันพรีเมี่ยมต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีการขยายหัวจ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ทั้งที่เป็นนโยบายของกระทรวงพลังงานที่ต้องการส่งเสริมให้มีการใช้เอทานอลมากขึ้น

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวน้ำมันพรีเมี่ยมที่มีการกำหนดราคาจำหน่ายไว้สูงกว่าราคาน้ำมันพื้นฐานทั่วไป ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ค้าน้ำมันให้แสดงเครื่องหมายภายในสถานีบริการน้ำมันให้ผู้บริโภคเห็นได้ชัดเจน จะได้เลือกใช้น้ำมันตามที่ต้องการได้ ทั้งนี้ สำหรับข้อสังเกตถึงการปรับลดราคาน้ำมันในกลุ่มพรีเมี่ยมที่ปรับลดน้อยกว่าน้ำมันพื้นฐานนั้น ผู้ค้าน้ำมันสามารถทำได้ เนื่องจากค้าปลีกน้ำมันเป็น “ตลาดเสรี” ที่ภาครัฐไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงราคาได้ แต่ที่ดำเนินการได้คือ ให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ก่อนที่จะเติมน้ำมันต้องสังเกตทั้งประเภทและราคาว่าเป็นอย่างไรก่อนเติมทุกครั้ง

ทั้งนี้ หลังจากที่กรมธุรกิจพลังงานชี้แจงผ่านเว็บไซต์ว่า น้ำมันพื้นฐานที่จำหน่ายทั่วไปได้มาตรฐานตามที่กำหนด ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจ่ายใช้น้ำมันเกรดพรีเมี่ยมที่ราคาค่อนข้างสูง ก็พบว่าการใช้น้ำมันเกรดพรีเมี่ยมเริ่มมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาต้นทุนที่แท้จริงของราคาน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมว่า ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และที่กำหนดราคาที่แพงกว่าน้ำมันปกติถึง 3-4 บาท/ลิตรนั้น ถือว่าสมเหตุสมผลหรือไม่

“กรมธุรกิจพลังงานก็เห็นความแตกต่างของราคาน้ำมันปกติกับน้ำมันพรีเมี่ยมในทุกครั้งที่เจ้าตลาด คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการประกาศปรับลดราคาน้ำมัน ในเมื่อตลาดน้ำมันเป็นตลาดเสรี จริง ๆ ผู้ค้าน้ำมันไม่ต้องลดราคาน้ำมันยังได้เลย แต่ถ้าขายแพงไปก็จะไม่มีใครซื้อ แต่ทีนี้คำถามที่มันยังไม่ได้คำตอบ คือขายแพงตั้ง 3-4 บาท มันค้ากำไรเกินควรหรือไม่ จริง ๆ แพงกว่าแค่ 1 บาท/ลิตร ก็น่าจะสมเหตุสมผลแล้ว”

นายวิฑูรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้สั่งการให้ผู้ค้าน้ำมันที่จำหน่ายน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมจะต้องแจ้งปริมาณการจำหน่ายในแต่ละเดือนว่าเป็นอย่างไรเพิ่มเติมด้วย