ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังตลาดกังวลการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

แท่นสูบน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ทรงตัว หลังตลาดกังวลการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ท่ามกลางอุปทานตึงตัว

วันที่ 21 เมษายน 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ทรงตัว หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันโลกให้มีแนวโน้มปรับลดลง ขณะที่อุปทานน้ำมันยังคงตึงตัวอย่างต่อเนื่องจากการคว่ำบาตรรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 เม.ย. 65 ปรับตัวลดลงกว่า 8.0 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 413.7 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการส่งออกน้ำมันที่สูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 2.5 ล้านบาร์เรล

การประท้วงจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในลิเบีย ทำให้การผลิตน้ำมันดิบราว 5.5 แสนบาร์เรลต่อวัน ยังคงหยุดดำเนินการต่อเนื่อง หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติ National Oil Corporation (NOC) ประกาศภาวะสุดวิสัยด้านการส่งมอบน้ำมันดิบจากบ่อน้ำมัน Al-Sharara เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในอินโดนีเซียและมาเลเซียในช่วงรอมฎอน ขณะเดียวกันตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินในจีนที่ปรับลดลงจากมาตรการล็อกดาวน์

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์การใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคฟื้นตัวขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างเมือง อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลในมาเลเซียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น