“สนธิรัตน์”นำทีมผู้บริหารพาณิชย์ลงพื้นที่เมืองสองแคว หารือการค้าการลงทุน-เชื่อมโยงโลจิสติกส์

“สนธิรัตน์”นำทีมผู้บริหารพาณิชย์ลงพื้นที่ หารือภาคเอกชน ร่วมกำหนดแผนขยายการค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนล่าง รวมทั้งเชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชน ได้แก่ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม สภาเกษตรกร สมาคมการท่องเที่ยว ถึงทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและโอกาสทางค้า และการลงทุน รวมทั้งการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนล่าง ทั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นและร่วมกันกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์จากแนวระเบียงเศรษฐกิจ ( Economic Corridor )ในการเชื่อมโยงโอกาสทางการค้า และการลงทุนตลอดจนการเชื่อมโยงโลจิสติกส์ กับประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่นำ้โขง

ทั้งนี้ ภาคเหนือตอนล่างเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านการผลิตและแปรรูปอาหาร มีโอกาสสูงที่จะใช้ประโยชน์จากเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาค ได้แก่ GMS และ BIMSTEC รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพทางการตลาดสูงมาก อาทิ กลุ่มมรดกโลก กลุ่มอารยธรรมล้านนา ดังนั้น เพื่อให้เกิดการขยายตัว กระทรวงพาณิชย์ จึงต้องการให้เกิดความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อเตรียมการใช้ประโยชน์จากศักยภาพได้อย่างเต็มที่

“ทั้งการวางแผนงานเพื่อรองรับโครงการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าของภาคเหนือตอนล่าง การเชื่อมโยงธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว กับ สสป. ลาว และเมียนมาร์ อาทิ บริการสุขภาพ บริการที่พัก และ ธุรกิจ MICE รวมทั้งจะนำแนวคิดการตลาดนำการผลิตเพื่อสนับสนุนให้ภาคเหนือตอนล่างป็นฐานการผลิตอาหารที่มีมูลค่าสูงและสินค้าเกษตรอินทรีย์ การส่งเสริมการตลาดผ่านช่องทางการค้าดั้งเดิม อาทิ การนำสินค้าเกษตร เกษตรอินทรีย์ และอาหารแปรรูป เข้าร่วมงาน THAIFEX 2018 งาน Organic Natural EXpo การสนับสนุนให้เกิดการค้าออนไลน์ การส่งเสริมพัฒนาเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคเหนือเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านธุรกิจและการตลาด ตลอดจนส่งเสริมการค้าชายแดน และแก้ไขปัญาอุปสรรค ณ ด่านชายแดน เพื่อให้การค้าและการขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”


นอกจากนี้ การนำคณะลงพื้นที่ครั้งนี้ จะถือโอกาสรับฟังประเด็นปัญหาที่ภาคเอกชนต้องการให้แก้ไข เช่น กฎระเบียบทางการค้าผ่านแดนประเทศเพื่อนบ้านยังมีข้อจำกัดและขั้นตอนที่เข้มงวด ซึ่งไม่เอื้อต่อการค้าชายแดน รวมทั้งอุปสรรคต่างๆ ที่ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาคได้อย่างเต็มที่ และ การดำเนินงานในพื้นที่จะมีพาณิชย์จังหวัดในเขตภาคเหนือตอนล่างเป็นผู้รับผิดชอบ และเชื่อมโยงกับกระทรวงฯ หากมีปัญหาและอุสรรคที่กระทรวงฯ สามารถแก้ไขได้ ก็จะดำเนินการโดยทันที อย่างไรก็ดี หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น ก็จะประสานเพื่อดำเนินการแก้ไขให้ หรือหากจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขในระดับรัฐบาล ก็จะนำเรื่องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขต่อไป