“โซลาร์ ดี” ผนึก “เทสลา”ดันนวัตกรรม “Tesla Powerwall” ระบบจัดเก็บ จัดการพลังงานสะอาด 13.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ตอบโจทย์ใช้งานครัวเรือนรายแรกในเอเชีย เผย มีลูกค้าติดตั้งแล้วกว่า 50 ราย เร่งหาพันธมิตรกลุ่มอสังหาฯ เพิ่มสัดส่วนรายได้ลูกค้าบ้าน 30% ปี’65 ชี้ตลาดโซลาร์ไทยขาขึ้น มองไม่เกิน 10 ปี มูลค่าพุ่งแตะ 5 หมื่นล้าน
วันที่ 27 เมษายน 2565 นายสัมฤทธิ์ สิทธิวรานุวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โซลาร์ ดี คอร์ปอร์เรชัน จำกัด กล่าวว่า โซลาร์ ดี ร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก “เทสลา” เป็นพันธมิตรในฐานะตัวแทนติดตั้งอย่างเป็นทางการเพียงหนึ่งเดียวในไทย ผ่านเทคโนโลยี “Tesla Powerwall” ครั้งแรกของเอเชีย ที่นำเสนอสมาร์ตโซลูชันพลังงานสะอาดเพื่อให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ราคาทองวันนี้ (24 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ 41,100 บาท
ด้วยนวัตกรรมระบบจัดเก็บและจัดการพลังงานไฟฟ้าขนาด 13.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ใช้งานได้มากกว่าการสำรองพลังงาน สามารถควบคุมและจัดการพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง เพียงพอสำหรับการเปิดเครื่องปรับอากาศขนาด 24,000 บีทียูได้นาน 10 ชั่วโมง และยาวต่อเนื่องไม่จำกัดหากใช้ร่วมกับระบบโซลาร์รูฟท็อป
นอกจากนี้ ยังเพียงพอสำหรับการชาร์จรถยนต์อีวีในช่วงเวลากลางคืนให้วิ่งได้ถึง 90 กิโลเมตร อีกทั้งลูกค้าสามารถขยายเพิ่ม Powerwall ได้สูงสุดถึง 10 ยูนิตต่อ 1 ระบบ เพื่อรองรับการใช้งานของบ้านทุกขนาด รูปแบบมีความทนทาน กันน้ำกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP67 ติดตั้งได้ทั้งภายในอาคารและนอกตัวอาคาร และจะวางกับพื้นหรือแขวนบนผนัง ในราคารวมค่าอุปกรณ์ Tesla Gateway ที่ 599,000 บาท
ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าที่ติดตั้งแล้วกว่า 50 หลังคา เป็นกลุ่มลูกค้าเมืองหลัก ที่มีศักยภาพ อีกทั้งอยู่ระหว่างหารือกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 3 ราย ตั้งเป้าอนาคตจะมีลูกค้าปีละหลักพันราย
ซึ่งปีนี้นวัตกรรม Tesla Powerwall จะสร้างรายได้เป็น 30% จากปัจจุบันที่บริษัทฯ ติดตั้งโซลาร์ให้กับโรงงานอยู่ในสัดส่วน 90% ที่มียอดติดตั้งกำลังผลิตรวมแล้วกว่า 80 เมกะวัตต์ โดยเป้าหมายปีนี้อยู่ที่ 30 เมกะวัตต์ โต 80% จากปีที่ผ่านมา 2564 มีปริมาณติดตั้งกำลังผลิตรวมที่ 20 เมกะวัตต์
สำหรับ Tesla Powerwall เป็นสมาร์ทโซลูชันสำหรับการจัดเก็บและจัดการพลังงานไฟฟ้าจากเทสลา ให้ทุกบ้านสามารถผลิตไฟฟ้าไว้ใช้งานได้เอง รองรับการผลิตไฟฟ้าใช้เองในบ้านตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้วิถีพลังงานสะอาด และลดการพึ่งพิงพลังงานไฟฟ้าจากส่วนกลาง
ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว ผ่านระบบ AC Couple แบบ All in single unit มาพร้อมกับเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าหรืออินเวอร์เตอร์ภายในตัว ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งร่วมกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าและรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบไร้สายเพื่อใช้งานฟังก์ชันใหม่ๆ ในอนาคต
“ตลอดเวลากว่า 9 ปีที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโซลาร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่เทรนด์พลังงานสะอาดได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ความนิยมในการใช้ระบบโซลาร์รูฟท็อปก็เพิ่มสูงขึ้น และด้วยราคาที่ลดลง มองว่ามูลค่าตลาดโซลาร์อีก 10 ปี จะมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท จากปัจจุบันหลักพันล้านบาท
โดยเฉพาะช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเเนวโน้มเติบโตมาก ยิ่งเกิดสภาวะสงครามรัสเซีย ยูเครน ภาคพลังงานเชื้อเพลิงทุกชนิด ตลอดจนโซลาร์ก็อยู่ในช่วงขาขึ้น และทุกเเบรนด์พลังงานเริ่มเข้าสู่ EV เทรนด์ลูกค้า คนส่วนใหญ่อยากนำเอาแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ จึงเป็นไอเดียที่เราเริ่มเอานวัตกรรมนี้ขยายธุรกิจโซลาร์ในครัวเรือน”
สำหรับ โซลาร์ ดี ดำเนินธุรกิจบริการด้านระบบการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคาร ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบระบบการผลิตพลังงานที่สะอาดในชีวิตประจำวันของทุกคน และเป้าหมายในการนำเสนอการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Energy) ให้ภาคครัวเรือนได้มีส่วนช่วยในการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ Tesla Powerwall เปิดให้ผู้สนใจจองล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ในงานสถาปนิก’65 (Architect Expo 2022) ครั้งที่ 34 ที่อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี โดย Tesla Powerwall เปิดราคาเริ่มต้นพร้อมบริการติดตั้งจากโซลาร์ ดี รวมค่าอุปกรณ์ Tesla Gateway ในราคา 599,000 บาท พร้อมรับฟรีระบบโซลาร์ สิทธิ์ลุ้น Lucky draw และรับส่วนลดพิเศษเฉพาะในงานสถาปนิก’65 เท่านั้น อีกทั้งมีการรับประกันการใช้งานกว่า 10 ปี (ที่ความจุไม่ต่ำกว่า 70% โดยไม่จำกัดจำนวนการใช้)
