จุรินทร์ หารือฮ่องกง ดันส่งออกอาหาร-ผลไม้พรีเมี่ยม-ดิจิทัลคอนเทนต์ของไทย

ผลไม้

“จุรินทร์” หารือ “เอ็ดเวิร์ด เหยา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพัฒนาทางเศรษฐกิจฮ่องกง หวังเดินหน้าตลาดอาหาร-ผลไม้พรีเมี่ยม-ดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยปี’65

วันที่ 19 พฤษภาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือทวิภาคีกับนายเอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และพัฒนาทางเศรษฐกิจ ฮ่องกง ว่าตนหารือกับท่านรัฐมนตรีฮ่องกงมี 4 ประเด็น สำคัญ โดยเฉพาะการผลักดันการส่งออกข้าวหอมมะลิและผลไม้

สำหรับประเด็นหารือ คือ 1.ขอให้ฮ่องกงช่วยสนับสนุนการส่งออกข้าวพรีเมี่ยม รวมทั้งข้าวหอมมะลิจากประเทศไทยไปฮ่องกงและอาหารพรีเมี่ยม เช่น เนื้อจากพืช (Plant Base Meat) รวมทั้งผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน ลำไย มะม่วง และผลไม้อื่น ๆ เกรดพรีเมี่ยม

2.ขอให้ฮ่องกงช่วยสนับสนุนธุรกิจภาพยนตร์ของไทย รวมทั้งธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ด้วย ซึ่งเดือนกรกฎาคมปีนี้ในงานฮ่องกงอินเตอร์เนชันแนลฟิล์มแอนด์ทีวีมาร์เก็ต ที่สมาคมธุรกิจภาพยนตร์ไทยจะได้มีโอกาสทำ MOU กับ TVB ฮ่องกง

ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้ไทยสามารถเปิดตลาดภาพยนตร์ไทยในฮ่องกงได้สะดวกกว้างขวางขึ้น รวมทั้งจูงใจให้ธุรกิจภาพยนตร์ในฮ่องกงใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไป โดยตนมอบให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศช่วยดูประเด็น MOU ให้ครอบคลุมรอบด้านที่สุด ถ้าเป็นประโยชน์กับธุรกิจภาพยนตร์ไทยและดิจิทัลคอนเทนต์ของเราให้มากที่สุด รวมทั้งจะเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการใช้ Soft Power ผลักดันทั้งภาคการผลิตและบริการของไทยในการเปิดตลาดฮ่องกงในตลาดโลกต่อไป

3.ขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้นักลงทุนของฮ่องกงทำธุรกิจ Wellness ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในประเทศไทย 4.ขอให้ฮ่องกงสนับสนุนการออกแถลงการณ์ร่วมในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจการค้าเอเปคในครั้งนี้ต่อไปด้วย

ส่วนทางฮ่องกงได้หยิบยกขึ้นมาหารือมี 4 ประเด็นสำคัญ เช่นกัน คือ 1.ท่านสนับสนุนการประชุมเอเปคครั้งนี้ที่มีตนเป็นประธานในการประชุมและสนับสนุนที่ประเทศไทยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพการประชุม พร้อมสนับสนุนการออกแถลงการณ์ร่วมและแนวคิดหลักของไทยในเรื่องแนวคิด “Open. Connect. Balance.”

2.ฮ่องกงมีความประสงค์ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิก RCEP 15 ประเทศ ที่มีผลบังคับใช้แล้ว ตนแจ้งว่าไทยยินดีให้การสนับสนุนให้ฮ่องกงเข้ามาร่วม จะมีส่วนทำให้ RCEP ใหญ่ขึ้นและขนาดเศรษฐกิจขยายตัวออกไปด้วย โดยตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ปี 2566 เป็นต้นไป RCEP จะเริ่มกระบวนการเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ขอให้ฮ่องกงแจ้งความจำนงตามกระบวนการ

3.รัฐมนตรีฮ่องกงแจ้งว่าผู้บริโภคชาวฮ่องกงสนใจสินค้าระดับพรีเมี่ยมเป็นพิเศษ นอกจากข้าวของไทยแล้วยังสนใจอาหารและผลไม้ในระดับพรีเมี่ยม สอดคล้องกับสินค้าของไทยซึ่งได้มีการส่งออกไปยังฮ่องกงรวมทั้งในช่วงถัดจากนี้ฮ่องกงจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องระบบการขนส่งที่จะส่งสินค้าพรีเมี่ยมของไทยไปยังฮ่องกงด้วย เพื่อเพิ่มตัวเลขการส่งออกของไทย

และ 4.ในเรื่องของภาพยนตร์และดิจิทัลคอนเทนต์ท่านรัฐมนตรีฮ่องกงแจ้งให้ทราบว่ายินดีสนับสนุน และธุรกิจภาพยนตร์ฮ่องกงปัจจุบันมีการใช้บริการทั้งใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์รวมทั้งใช้บริการธุรกิจตัดต่อและอื่น ๆ สำหรับภาพยนตร์ของฮ่องกง แต่การทำ MOU ที่จะเกิดขึ้นนั้นท่านสนับสนุน เพราะจะเป็นการเพิ่มมูลค่าการค้าต่อกันได้มากขึ้น

ฮ่องกงถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 12 ของไทย มูลค่าการค้ารวม 4.56 แสนล้านบาท โดยไทยส่งออกไปฮ่องกงปีละประมาณ 3.65 แสนล้านบาท โดยประเทศไทยได้ดุลฮ่องกง สินค้าที่ส่งออกไปฮ่องกง เช่น คอมพิวเตอร์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แผงวงจรไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ โทรสารโทรศัพท์ ผลไม้สด ผลไม้แช่เย็นและแช่แข็ง เป็นต้น