กรมการค้าต่างประเทศจัดเสวนา”รู้ทันมาตรการที่มิใช่ภาษีสินค้าเกษตรผักผลไม้สด-แปรรูป เพื่อการส่งออกตลาดเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้)

กรมการค้าต่างประเทศจัดเสวนา”รู้ทันมาตรการที่มิใช่ภาษีสินค้าเกษตรผักผลไม้สด-แปรรูป เพื่อการส่งออกตลาดเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ชี้มูลค่ารวมปี 60 สูงถึง 791 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์กำหนดจัดการสัมมนาเรื่อง “รู้ทันมาตรการที่มิใช่ภาษีสินค้าเกษตร (ผักผลไม้สด และแปรรูป) เพื่อการส่งออกสู่ตลาดเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้)” โดยเชิญวิทยากรจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรมวิชาการเกษตร สถาบันอาหาร บริษัทห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทยพาวิลเลี่ยน คอร์ปอเรท จำกัด บริษัท พี. เค. สยาม จำกัด และสหกรณ์การเกษตรท่าใหม่ จำกัด ร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในเรื่องดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมให้ภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความรู้ด้านมาตรการที่มิใช่ภาษี (Non – Tariff Measures : NTMs) ของสินค้าเกษตรก่อนส่งออกสู่ตลาดเอเชียตะวันออก ให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการค้าของไทย ในวันที่ 27 ธันวาคม 2560 ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ

นายวันชัยกล่าวว่า ตลาดเอเชียตะวันออกโดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้นับเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยที่มีมูลค่าการส่งออกรวมกันขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 โดยปี 2558 มีมูลค่ารวม 47,891 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2559 มูลค่า 48,354 ล้านเหรียญสหรัฐ และช่วง ม.ค. – พ.ย. ของปี 2560 มูลค่า 51,564 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 1 ใน 4 ของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย ปัจจุบันไทยและอาเซียนมีความตกลงการค้าเสรีกับทั้ง 3 ประเทศ ดังนี้ (1) ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน [ACFTA] (2) ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย – ญี่ปุ่น [JTEPA] (3) ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน – ญี่ปุ่น [AJCEP] และ (4) ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – เกาหลี [AKFTA] เพื่อลดอัตราภาษีนำเข้าระหว่างกัน แต่ในขณะเดียวกันประเทศดังกล่าวยังกำหนด NTMs ในบางรายการสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตรนำเข้าจากไทย ซึ่งองค์กร The United Nations Conference on Trade and Development (UNCTAD) ร่วมกับ Economic Research Institute for ASEAN and East Asia (ERIA) ได้เปิดเผยข้อมูล NTMs ของจีนมี 2,900 มาตรการ ญี่ปุ่น 1,277 มาตรการ และเกาหลีใต้ 2,026 มาตรการ นับเป็นอุปสรรคด้านการส่งออกของไทยตลอดมา อย่างไรก็ดีตลาดเอเชียตะวันออกยังคงเป็นตลาดส่งออกสินค้าผักผลไม้สด และแปรรูปที่สำคัญของไทยตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา โดยปี 2557 มีมูลค่ารวม 567 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2558 มูลค่า 640 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2559 มูลค่า 692 ล้านเหรียญสหรัฐ และช่วง ม.ค.- พ.ย. ของปี 2560 มูลค่า 791 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยทั้ง 3 ประเทศอนุญาตให้นำเข้ามะม่วง ทุเรียน กล้วยดิบ มะพร้าวอ่อน สับปะรด และมังคุดจากไทย ขณะที่ญี่ปุ่นและจีนอนุญาตให้นำเข้าส้มโอได้ด้วย แต่อย่างไรก็ดีจีนยังอนุญาตให้นำเข้าสินค้าผลไม้สดมากกว่าญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ดังเช่น มะเฟือง ส้ม น้อยหน่า ฝรั่ง ขนุน ลองกอง มะละกอ เสาวรส เงาะ ละมุด สละ มะขาม ลิ้นจี่ ส้มเขียวหวาน ชมพู่ และลำไย เป็นต้น