วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน “เฉลิมชัย” หนุนเกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ตั้งเป้าเพิ่ม 15 ล้านไร่ ภายใน 5 ปี ครบรอบสถาปนา กรมพัฒนาที่ดิน 59 ปี เดินหน้าพัฒนาทรัพยากรที่ดินให้เกษตรกรใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม สร้างความมั่นคงทางอาหาร ภาคการผลิตยั่งยืน
วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในงานวันสถาปนากรมพัฒนาที่ดิน ครบรอบ 59 ปี ว่า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
กรมพัฒนาที่ดินมีหน้าที่ในการดูแลพี่น้องเกษตรกรทั้งในส่วนของการปรับปรุงดิน การดูแลสภาพพื้นดิน และในส่วนของแหล่งน้ำขนาดเล็ก และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเกษตรของประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้า และเป็นรากฐานของการผลิตภาคการเกษตร โดยเฉพาะการผลิตพืช ซึ่งมีบทบาทสำคัญตั้งแต่การวางแผนกำหนดพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ การสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาที่ดิน ด้วยการอนุรักษ์ดินและน้ำ
การวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับการตลาด ตามนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” การจัดการดินและปุ๋ยให้เหมาะสมกับพืช ช่วยลดต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะในสถานการณ์ปุ๋ยเคมีราคาแพง พร้อมเน้นย้ำในเรื่องงานวิจัย ที่จะต้องนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งจะเป็นแนวทางที่จะช่วยพัฒนาภาคการเกษตรเป็นอย่างดี
อีกทั้งยังต้องพัฒนาบุคลากรให้พร้อมสำหรับการอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรด้วย นอกจากนี้ ในด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่เกษตรกรผ่านเครือข่ายและการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จะทำให้การทำงานของกรมพัฒนาที่ดินประสบความสำเร็จ
โดยต้องให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรมและช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตรของประเทศไทยให้บรรลุตามเป้าหมาย ทั้งนี้ ในระยะเวลาที่ผ่านมา กรมพัฒนาที่ดินสามารถช่วยพี่น้องเกษตรกรในการลดต้นทุนและลดการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นจำนวนมาก และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเพิ่มพื้นที่ในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยที่มาจากธรรมชาติ ประมาณ 15 ล้านไร่ ภายในระยะเวลา 5 ปี ในปี 2570
“จากสถานการณ์ขาดแคลนปุ๋ย จากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เห็นแล้วว่า ถึงเวลาที่เกษตรกร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี โดยเฉพาะปุ๋ยเคมี เพื่อลดพึ่งพาการนำเข้า กรมจึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์มาทดแทนให้มากที่สุด และพร้อมจะขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างโอกาส สร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน และพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประเทศมีความมั่งคงทางเศรษฐกิจ และช่วยดูแลรักษาทรัพยากรดินของประเทศให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป”
ด้าน นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ทิศทางการขับเคลื่อนกรมพัฒนาที่ดินจากนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความสำเร็จการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน ได้กำหนดวิสัยทัศน์ เป็นองค์กรอัจฉริยะทางดินขับเคลื่อนการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสม 15 ล้านไร่ ภายในปี 2570 โดยการเพิ่มทักษะดิจิทัลนำเทคโนโลยีทันสมัย มาใช้ในการปฏิบัติงาน สอดคล้องกับภูมิสังคมและวิถีของเกษตรกร และเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายรวดเร็วด้วยการทำงาน ด้วยระบบดิจิทัล เช่น AI E-Service และ Application รวมทั้งเชื่อมโยงบูรณาการทำงานแบบห่วงโซ่คุณค่า เพื่อมุ่งสู่ Smart Agriculture ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์