บทใหม่ OR ปั้นพอร์ต All in One “ไลฟ์สไตล์”

จิราพร ขาวสวัสดิ์

เวทีสัมมนา “New Chapter เศรษฐกิจไทย” จัดโดยประชาชาติธุรกิจ โอกาสก้าวสู่ปีที่ 46 สุดยอดซีอีโอแลกเปลี่ยนมุมมองเศรษฐกิจไทยในบทใหม่

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ มองระบบเศรษฐกิจไทย หลังจากการระบาดของโควิด-19 จะเห็นการเติบโตที่ไม่เท่ากัน ที่เรียกว่า K-shaped นั่นคือผู้ประกอบการรายเล็กหรือผู้ประกอบการภาคส่วนการท่องเที่ยว การบริการ อาหาร มีการเติบโตที่ช้ากว่าธุรกิจด้านเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจมากขึ้น

ขณะเดียวกันปัจจัยที่มีผลอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งโลก คือ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change) จากข้อมูลสหประชาชาติระบุว่า จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมอุณหภูมิโลกร้อนขึ้น 1.2 องศาเซลเซียส โดยเดือน ก.ค. 2564 อุณหภูมิโลกสูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ 142 ปี ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมนำมาสู่การใช้พลังงานสะอาดซึ่งจะมากขึ้นจากเดิมที่ใช้ฟอสซิล ทั้งยังมีกระแสการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี disruptive technology

“ทุกอย่างมีทั้งโอกาสและอุปสรรค โออาร์ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ปรับตัวทั้งธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจรีเทล แม้ว่าเดิมจะมี PTT Station ประสบความสำเร็จ แต่ความสำเร็จในอดีตไม่ใช่สิ่งยืนยันความสำเร็จในอนาคต”

การปรับตัวในส่วนของธุรกิจรีเทลได้ปรับมาคิดว่า คนหนึ่งคนสามารถเป็นได้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคนั่นคือ เป็น prosumer โออาร์เองก็เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง คนเข้าห้างสรรพสินค้าหรือ outlet ลดลง ธุรกิจต้องปรับตัว ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ next chapter ที่ทุกคนต้องลุกขึ้นมาสร้างความแตกต่างเปลี่ยนแปลงในตัวเรา ไม่ย่อท้อ ไม่คิดที่จะแบมือขออย่างเดียว

จิราพร ขาวสวัสดิ์

OR ปฏิวัติตัวเอง

“บนสภาวะแวดล้อมที่ธุรกิจรายย่อยหรือผู้บริโภคฟื้นตัวช้า ธุรกิจรายย่อยล้มหายตายจากไปบ้าง โออาร์ไม่อาจเป็นองค์กรที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืนหากเราไม่เอื้อมมือเข้าไปช่วยเเละให้โอกาสกับทุกภาคส่วน”

เราจึงกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ Empowering all toward inclusive growth หมายถึงการเติมเต็มโอกาสเพื่อทุกการเติบโตร่วมกันนั่นคือ ทั้งธุรกิจและสังคม ทุกชุมชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เราไปลงทุน และสิ่งแวดล้อมดีขึ้น

วิสัยทัศน์ใหม่ไม่ใช่คำกล่าวล่องลอย แต่มีเป้าหมายที่ชัดเจนใน 3 มิติประกอบด้วย people planet profit หรือperformance ปี 2030

“โออาร์ตั้งปณิธานไว้ว่า เราจะเป็นองค์กรต้นแบบในศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะนำ people planet เข้ามาอยู่ในวิถีการทำธุรกิจ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทย คนตัวเล็ก SMEs ก้าวเข้าสู่ new chapter Thailand อย่างมั่นคง”

เติบโตพร้อมพันธมิตร

เป้าหมายแรก people จะทำให้สังคมชุมชน 12 ล้านชีวิต 15,000 ชุมชน ให้มีศักยภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้น ในอดีตจะเห็นการเติบโตแบบ “inside out” พัฒนาและส่งต่อผลิตภัณฑ์ มาตรฐาน สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สินค้าบริการ คาเฟ่ อเมซอน ไปยังผู้ประกอบการรายย่อยตลอดระยะเวลาการทำธุรกิจ 40 ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน SMEs ถึง 80% ได้เป็นเจ้าของแบรนด์โออาร์​ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการภายใต้แบรนด์โออาร์ 13,000 ราย จ้างงาน 145,000 คน

จากนี้เรามองถึงความยั่งยืน ผู้ที่จะเข้ามาอยู่ใน ecosystem ของโออาร์ จึงเปลี่ยนรูปแบบการสร้างธุรกิจที่เติบโตแบบ “outside-in growth” (partnership-based) มีวัตถุประสงค์ 2 อย่าง คือ ผู้ประกอบการรายอื่นไม่ว่าจะเป็น startup SMEs บริษัทขนาดกลาง บริษัทขนาดใหญ่ ทุกคนมีของดีอยู่ในตัวเอง ทุกคนมีจุดแข็ง ต้องมาร่วมกัน เพราะเพียงศักยภาพของเราคงไม่ได้พาให้องค์กรเติบโตร่วมกับสังคมชุมชนได้

ซึ่งการเปลี่ยนวิถีนี้มีส่วนทำให้คนที่เป็นพาร์ตเนอร์มีโอกาสใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน โดยมีเครื่องมือ คือ “Inclusive Growth Platform” เพื่อรองรับการเติบโตร่วมกับพันธมิตร โดยผ่านสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ที่มีสาขาในประเทศ 2,380 สาขา มีผู้เข้าใช้บริการ 3.3 ล้านคนต่อวัน บริษัทย่อยในต่างประเทศ 10 ประเทศ และมีสถานีน้ำมันในต่างประเทศอีก 350 สาขา

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราขยายเปิดรับ SMEs และ startup ที่มี “ดีเอ็นเอ” ใกล้เคียงกัน เช่น ร้านอาหารสุขภาพโอ้กะจู๋ ที่มีดีเอ็นเอเน้นสุขภาพและสร้างประโยชน์ต่อชุมชนเช่นเดียวกับเรา รวมถึงการลงทุนทางด้านดิจิทัล บริษัท ORBIT หรือ FLASH

งัด 4 กลยุทธ์ ปั๊ม EBITDA

ภายในปี 2030 โออาร์จะดำเนินการผ่านกลยุทธ์ 4 ด้าน คือ 1) seemless mobility เดิมเราอยู่กับธุรกิจออยล์ แต่อนาคตเรื่องพลังงานสะอาด การใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทำอย่างไรจะพัฒนาทำให้ “การเปลี่ยนผ่านนี้ไร้รอยต่อ” และเรายังมี FIT Auto ที่ให้บริการซ่อมเบารถยนต์ ซึ่งกำลังร่วมกับพาร์ตเนอร์ขยายบริการซ่อมรถอีวี ขณะที่บริการสถานีชาร์จ PTT Station PluZ จากปัจจุบัน 106 แห่ง จะขยายเป็น 450 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และภายในปี 2030 จะมี 7,000 แห่ง และพัฒนาแอป “PTT Station PluZ” ช่วยอำนวยความสะดวกด้วย

2) all lifestyles การสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างครบวงจร ธุรกิจในกลุ่ม nonoil ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ร้านสะดวกซื้อ เชื่อมต่อ mobility และ lifestyles ภายในปลายปีนี้จะมีแอปพลิเคชั่น All in One Aplication ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันตลอด 24 ชม. ตั้งแต่เช้าถึงเข้านอนสามารถเรียกหาแอปของเราได้

“ปัจจุบันมีสมาชิกบลูการ์ด 7.5 ล้านราย และแอ็กทีฟ 60% เรากำลังต่อยอดสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ All in One ตั้งเป้าปลายปี 2565 จะมีเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์เพื่อสร้าง ecosystem ให้คู่ค้าเข้ามาหลอมรวมกัน ใช้แพลตฟอร์ม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่แรงงานไทย ธุรกิจไทย การลงทุนไทยก้าวมาสู่ new chapter Thailand”

3) global market มีบริษัทอยู่ต่างประเทศ 10 ประเทศ ตั้งเป้าปี 2030 จะมีบริษัทร่วม 20 ประเทศ อีกด้านหนึ่งเราค้นพบแล้วว่าจากการตั้งบริษัทย่อยถือหุ้นเอง 100% เราพบปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการเติบโต เช่นว่า วัฒนธรรมประเทศนั้น ๆ ช่องทางการขอใบอนุญาตและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังนั้น ควรหาพาร์ตเนอร์ในท้องถิ่น หรือนักธุรกิจต่างประเทศที่มีประสบการณ์การลงทุนในประเทศนั้นมาร่วมกัน ลงทุนรูปแบบใหม่เรียกว่า asset light model เป้าหมายให้เกิด win-win situation ช่วยพันธมิตรผลักดัน “แบรนด์ไทย”ไปสู่แบรนด์โลก

พันธกิจสุดท้าย 4) OR innovation จุดยืนต้องเป็นนวัตกรรมที่สามารถแก้เพนพอยต์ต่าง ๆ โดยนวัตกรรมในแบบฉบับของ OR เป็นการลงทุนด้านอินโนเวชั่นใหม่ ๆ ที่ผ่านมาได้จัดตั้ง ORZON Ventures ร่วมกับ tuk tuk และได้จัดหาสตาร์ตอัพมาร่วมเป็นพันธมิตร 5 ราย เช่น Pomelo freshket เป็นต้น

“สตาร์ตอัพจะไม่ใช่แค่ได้โอกาสด้านเงินลงทุน แต่จะสามารถเข้ามาทดลองธุรกิจ เติบโตร่วมกัน หากรายใดมีศักยภาพสามารถ IPO ได้ เอาจุดแข็งของทุกคนมาร่วมกัน ทั้งหมดนี้จะทำให้เศรษฐกิจเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และแสงสว่างจะชัดเจน”

แผนการลงทุนจนถึงปี 2030 อยู่ในกรอบมูลค่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งเฉพาะปีนี้จะลงทุน 97,600 ล้านบาท โออาร์ตั้งเป้ากำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA)จะก้าวกระโดดจาก 18,000 ล้านบาทในปี 2021 เป็น 40,000 ล้านบาทในปี 2030 โดยกลุ่มธุรกิจไลฟสไตล์และธุรกิจใหม่ขึ้นมาทำกำไรสัดส่วนถึง 50% แน่นอนว่าอนาคตพอร์ตของ “OR” (oil and retail) จะเปลี่ยนเป็น RO (retail and oil) และออยล์จะไม่ใช่แค่น้ำมันแต่จะหมายถึงพลังงานสะอาดด้วย