ธุรกิจเลิกกิจการกว่า 4.5 พันรายใน 5 เดือนแรกปี’65

ธุรกิจเลิกกิจการกว่า 4.5 พันรายใน 5 เดือนแรกปี'65
ภาพจาก Pixabay

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยบริษัทตั้งใหม่ พ.ค.65 ฟื้นตัว มีจำนวน 5,917 ราย เพิ่มขึ้น 6% ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและเปิดประเทศ ส่วนยอดเลิก 1,102 ราย เพิ่ม 39% ช่วง 5 เดือนแรกเลิกกิจการแล้วกว่า 4,500 ราย 

วันที่ 29 มิถุนายน 2565 นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนพฤษภาคม 2565 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,917 ราย เทียบกับเมษายน 2565 เพิ่มขึ้น 10% และเทียบกับพฤษภาคม 2564 เพิ่มขึ้น 6% ซึ่งเป็นการกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวลงไปในเดือนเมษายน 2565

โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 14,357.13 ล้านบาท และประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ที่กลับมาติดอันดับ 3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการเปิดประเทศ

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,102 ราย เมื่อเทียบกับเมษายน 2565 เพิ่มขึ้น 30% เทียบกับพฤษภาคม 2564 เพิ่มขึ้น 39% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกจำนวน 3,760.77 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร

นายจิตรกร กล่าวด้วยว่า ช่วง 5 เดือนแรก ม.ค.-พ.ค.65 มีธุรกิจตั้งใหม่ รวม 33,640 ราย เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลง 3.69% รวมทุนจดทะเบียนจัดตั้ง 259,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131% ส่วนธุรกิจเลิกกิจการ มีจำนวน 4,546 ราย เพิ่มขึ้น 17% รวมทุนจดทะเบียนเลิกกิจการ 53,343 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.3% ทั้งนี้ ณ 31 พ.ค.2565 มีธุรกิจที่ยังดำเนินการอยู่ จำนวน 837,840 ราย มูลค่าทุน 20 ล้านล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการจดทะเบียนตั้งใหม่ในระยะต่อไป คาดว่า จะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม การค้าขาย ภัตตาคาร ร้านอาหาร ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจบันเทิง เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และรัฐบาลมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้น

แต่ก็ต้องระวังผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น การยกเลิกตรึงราคาก๊าซหุงต้ม การปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) และสถานการณ์โควิด-19 ที่จะเป็นปัจจัยลบ กระทบต่อการประกอบธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 อยู่ประมาณที่ 40,000 ราย และตลอดทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 70,000–75,000 ราย

ปัจจุบันมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 พ.ค.2565) จำนวน 837,840 ราย มูลค่าทุน 20.03 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,250 ราย คิดเป็น 24.14% บริษัทจำกัด จำนวน 634,245 ราย คิดเป็น 75.70% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,345 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ