มิติใหม่ “ศรีนครินทรวิโรฒ” ปรับตัวมหา’ลัยสู่องค์กรดิจิทัล

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเดินหน้าปรับตัวเข้าสู่องค์กรแบบดิจิทัล ด้วยการจัดทำโครงการพัฒนาระบบทรัพยากรมหาวิทยาลัย (SWU ERP: Power Of UNITY) ที่ร่วมกับบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด เพื่อจัดการและดำเนินงานในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ เพื่อให้เกิดมาตรฐานภายในมหาวิทยาลัย พร้อมก้าวสู่การใช้นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน

“รศ.ดร.สมชาย สันติวัฒนกุล” อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า การศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของสังคมและเศรษฐกิจ จึงจำเป็นต้องมีการปรับตัว ทางมหาวิทยาลัยเล็งเห็นความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จึงได้ผลักดันให้มีการปรับองค์กรและทำให้มหาวิทยาลัยเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

“โครงการพัฒนาระบบทรัพยากรมหาวิทยาลัย (SWU ERP: Power Of UNITY) ที่ดำเนินการร่วมกับบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด ในครั้งนี้ เป็นการจัดการและดำเนินงานด้วยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ เพื่อให้เกิดมาตรฐานภายในมหาวิทยาลัย รวมถึงการให้ข้อมูลบริการด้วยความรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำด้วยระบบ ERP จาก SAP ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นการก้าวไปสู่การใช้นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน”

“การปรับเปลี่ยนครั้งนี้เป็นการอำนวยความสะดวกการทำงานให้แก่นิสิต คณาจารย์ และบุคลากร จนทำให้ทุกคนสามารถรวบรวมข้อมูลจำนวนมากเข้ามาอยู่ที่เดียวกันได้ และยังเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ด้วยความถูกต้อง แม่นยำ และปลอดภัยในการรักษาข้อมูล อาทิ การวางแผนงานระบบภายในคณะ/หน่วยงาน การส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างกันภายในมหาวิทยาลัย”

รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยดำเนินการ และบริหารงานภายในมหาวิทยาลัย ที่เปลี่ยนจากการบันทึกข้อมูลลงบนกระดาษให้กลายเป็นการจัดการข้อมูลบนคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติและออนไลน์ถึงกัน

“ศรีรัตน์ ชูโชติถาวร” กรรมการบริษัท ไอแอม คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า SAPERP มีคุณสมบัติ Online Real-time Integration โดยมีการเก็บข้อมูลไว้ที่ส่วนกลาง รองรับการบันทึกข้อมูล และเรียกใช้ข้อมูลได้จากทุกส่วนงานพร้อมกัน จึงสามารถสั่งงานได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องทันต่อเหตุการณ์”

นอกจากนี้ระบบงานต่าง ๆ ของ SAPERP ยังนำมาประยุกต์ใช้กับความต้องการของการบริหารงานมหาวิทยาลัยได้ อาทิ การรองรับการทำบัญชีสามมิติ การทำบัญชีกองทุน การควบคุมงบประมาณ การจัดการต้นทุน อีกทั้งเราในฐานะ SAPGold Partner ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำโครงการ SA-PERP ให้กับองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศ จึงสามารถนำประสบการณ์ที่มีมาใช้เพื่อความสำเร็จของโครงการและมหาวิทยาลัย

นับเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของมหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง