“IDP” ลงทุน 1.2 พัน ล. ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนการศึกษา

การที่ประเทศไทยจะก้าวไปสู่เป้าหมายตามนโยบาย Thailand 4.0 มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่คนในประเทศต้องมีทักษะในระดับสากล เหตุผลดังกล่าว จึงทำให้ IDP เอดยูเคชั่น เข้ามาเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมนโยบายนี้ เพราะเป็นหนึ่งในองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการแนะแนวเรียนต่อต่างประเทศสัญชาติออสเตรเลีย

ทั้งยังเป็นเจ้าของข้อสอบ IELTS ซึ่งเป็นข้อสอบวัดระดับความสามารถด้านภาษาอังกฤษชั้นนำของโลก และสถาบันการเตรียมความพร้อมด้านภาษา ชื่อว่า IDP English ในประเทศไทยอีกด้วย

ดังนั้น IDP จึงมุ่งหน้าพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีโซลูชั่นที่ครอบคลุมตลอดเส้นทางของการให้บริการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับคุณภาพประชากรของไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

วราภรณ์ ธรรมจรีย์ – แอนดริว บาร์กลา

“แอนดริว บาร์กลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้จัดการบริหาร ไอดีพี เอดยูเคชั่น (Global) กล่าวว่า มิติที่ทำให้ IDP มีส่วนสำคัญกับการผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 คือไม่ว่าบริษัทไทย หรือบริษัทข้ามชาติที่เปิดธุรกิจในประเทศไทย ผู้ประกอบการมักมองหาบุคลากรที่มีทักษะสูง โดยเฉพาะด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งการศึกษาต่อต่างประเทศเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะที่ไม่ใช่เพียงภาษาอังกฤษ แต่ยังเป็นทักษะการใช้ชีวิต และเป็นการเปิดประสบการณ์ให้มองเห็นโลกกว้างด้วย

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้ IDP ยังคงดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 48 ปีในระดับโลก และกว่า 29 ปีในประเทศไทย คือ เราไม่หยุดพัฒนาสิ่งต่าง ๆ และเมื่อถึงยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทในสังคมสูง เราไม่พลาดที่จะนำมาทำให้เกิดประโยชน์ โดยประมาณปลายปีเราจะเพิ่มแพลตฟอร์มการทำข้อสอบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามมาด้วยเวียดนาม โดยเรายังคงรูปแบบกระดาษไว้เป็นทางเลือก ซึ่งทั้ง 2 แพลตฟอร์มยังใช้การสอบพูดกับคนจริง ๆ อยู่ เพราะสามารถโต้ตอบได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

“นอกจากนั้นเรายังลงทุนอีกกว่า 1.2 พันล้านบาท เพื่อซื้อ HotCourses Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือกำเนิดในประเทศอังกฤษ ที่ให้บริการเว็บไซต์ค้นหามหาวิทยาลัย และหลักสูตรจากทั่วโลก ทำให้เราเป็นคลังข้อมูลด้านการศึกษาทุกระดับที่ใหญ่สุดของโลก มีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 66 ล้านคนต่อปี เพราะการลงทุนดังกล่าว เราต้องการยกระดับการให้บริการแก่คนทั่วโลกได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดีที่สุดในอุตสาหกรรมการศึกษา”

การลงทุนซื้อ HotCourses ยังทำให้เราได้ฐานข้อมูลเกี่ยวกับคนที่สนใจศึกษาต่อต่างประเทศ เพื่อมาใช้ส่งเสริมประสิทธิภาพการให้บริการดียิ่งขึ้น และยังจะช่วยเชื่อมโยงผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์ใหม่ของ IDP ที่เป็นแพลตฟอร์มให้บริการด้านการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ จะเปิดให้บริการในอีก 9 เดือนข้างหน้า ฉะนั้นต่อไป IDP เอดยูเคชั่น จะมีฐานข้อมูลที่ใหญ่สุดในโลก

“แอนดริว บาร์กลา” กล่าวด้วยว่า ถึงแม้เรื่องความปลอดภัยจะเป็นเกณฑ์อันดับ 4 รองจากอันดับมหาวิทยาลัย, ประสบการณ์ที่ต้องการได้ และราคาที่คนใช้ตัดสินใจเลือกสถานที่ในการศึกษา แต่เราไม่ละเลยต่อการสร้างเครื่องมือเข้ามาช่วยสร้างความอุ่นใจให้ลูกค้าของเรา ด้วยการจัดตั้งหน่วยงานเสริมคุณค่าทางการบริการที่เรียกว่า 24/7 (ทเวนตี้โฟร์เซเว่น)

“เนื่องจากเรานำร่องเปิดตัวในออสเตรเลียก่อนเมื่อ 6 เดือนผ่านมา เพื่อช่วยให้ผู้ที่ไปศึกษาต่อในออสเตรเลียติดต่อสอบถาม หรือขอความช่วยเหลือในหลาย ๆ ประเด็นได้ 24 ชั่วโมงทุกวัน ที่สำคัญ เราเล็งเห็นอุปสรรคด้านภาษาอังกฤษของนักศึกษาต่างชาติในออสเตรเลีย เราจึงจัดให้มีผู้ช่วยเหลือที่สามารถสื่อสารภาษาต่างชาติได้มากกว่า 30 ภาษาด้วย”

ทั้งยังมีการสร้างชุมชนที่เป็นแหล่งรวมนักศึกษาจากหลายประเทศให้มาพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพราะนอกจากการได้วุฒิการศึกษากลับมา การเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายก็เป็นสิ่งสำคัญของการไปศึกษาต่อต่างประเทศ เพื่อที่พวกเขาจะกลายเป็นเครือข่ายในการทำธุรกิจของนักเรียน-นักศึกษาในอนาคตต่อไป

ดังนั้น หากพูดถึงแผนงานในอนาคตอันใกล้ “แอนดริว บาร์กลา” บอกว่า เรามีแผนขยายธุรกิจให้เติบโตทั้งด้านการแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ และการสอบ IELTS โดยเรามองว่าจะขยายธุรกิจในประเทศสเปน, ญี่ปุ่น และไนจีเรีย เพราะถึงแม้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังคงทุ่มเทที่จะให้การศึกษาดีที่สุดแก่บุตรหลานอยู่ดี

“ดูได้จากอัตราการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ที่เติบโตอย่างแข็งแรง และคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างนี้ไปอีก 10 ปีข้างหน้า นอกจากนั้น เรายังมีแผนที่จะเชื่อมโยงกับสถานประกอบการ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษามีที่รองรับในการฝึกงานอีกด้วย”

นอกจากการใช้เทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาธุรกิจ ล่าสุด IDP ยังจัดตั้งสำนักงานระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศไทย สำหรับเรื่องนี้ “วราภรณ์ ธรรมจรีย์” ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ไอดีพี เอดยูเคชั่น เซอร์วิสเซส กล่าวให้ฟังว่า IDP ประเทศไทยมีการเติบโตที่ดี และมีศักยภาพ เราจึงต้องการให้ประเทศไทยเป็นดิจิทัลฮับของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะนำเรื่องการตลาดดิจิทัลมาเป็นฐานที่นี่ รวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางของหลักสูตรเตรียมความพร้อมภาษาอังกฤษ

“ถึงแม้ธุรกิจ IDP ในไทย และระดับโกลบอลจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เราหนีไม่พ้นความท้าทาย โดยเฉพาะความท้าทายในเรื่องการพัฒนาบุคลากรขององค์กร เพราะจะเห็นจากโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น เราจึงต้องมีบุคลากรที่มีความพร้อมมาเสริมแกร่งเพื่อให้เกิดการแข่งขัน ผลเช่นนี้จึงทำให้เราต้องเพิ่มทักษะบุคลากรของเราให้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมาย ด้วยการสร้าง Online HR Development แพลตฟอร์มที่พนักงานสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกคน”

ส่วนเทรนด์การศึกษาในช่วงระยะที่ผ่านมา คนไทยยังคงนิยมไปเรียนต่างประเทศเพื่อเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษ แต่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง ตรงที่ไปเรียนสายอาชีวะเพิ่มขึ้นมาก เพราะเป็นผลมาจากนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมให้เด็กไทยเรียนสายอาชีพมากขึ้น

สำหรับประเทศยอดนิยม 3 อันดับแรก ยังคงเหมือนเดิม คือ ออสเตรเลีย, อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา เพียงแต่ในเรื่องสาขาอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง เพราะนักเรียน-นิสิต-นักศึกษาไทยเริ่มเรียนสาขาเฉพาะทาง และไอทีมากขึ้น จากแต่ก่อนจะเลือกเรียนเฉพาะสายบริหาร และบัญชี

จึงนับเป็นการใช้เทคโนโลยีโซลูชั่นที่ตอบโจทย์กับแนวโน้มด้านการศึกษาของโลก จนทำให้ IDP กลายเป็นผู้นำในตลาดการศึกษาต่างประเทศ