โชรส์เบอรี ซิตี้แคมปัส เปิดตัวหลักสูตร ”โปรแกรมฮั่นชิง“ ก้าวใหม่การศึกษานานาชาติในไทย

โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส เปิดตัวหลักสูตรพรีเมี่ยม “ฮั่นชิง เส้นทางการเรียนรู้สองภาษาจีนกลางและอังกฤษ” (Hanqing Bilingual Pathway) ด้วยการสอนเทคนิค CLIL สัดส่วนภาษาจีนกลาง-อังกฤษ 45% และไทย 10% เน้นปูพื้นฐานนักเรียนไทยเพิ่มความได้เปรียบในตลาดแรงงานที่เชื่อมโยงกับโลกอนาคต

อแมนดา เดนนิสัน ครูใหญ่และครูผู้บริหารรุ่นก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส (Shrewsbury International School Bangkok City Campus) เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกของโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษที่ได้มีการจัดการเรียนการสอนสองเส้นทางภายในรั้วโรงเรียนเดียวกัน

ซึ่งโปรแกรมฮั่นชิง เส้นทางการเรียนรู้สองภาษา จีนกลางและอังกฤษ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนวิชาต่าง ๆ ในสองภาษาควบคู่กันไปในระดับเท่า ๆ กัน สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของโรงเรียนในการมองไกลสู่อนาคต และเล็งเห็นถึงความต้องการในตลาดโลก

ทั้งนี้ โปรแกรมฮั่นชิง เส้นทางการเรียนรู้สองภาษา จีนกลางและอังกฤษ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกทางการเรียนรู้ภายใต้โรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษ ที่ผู้ปกครองและนักเรียนสามารถเลือกได้ตามเป้าประสงค์ของตน

สอดคล้องกับพันธกิจของโรงเรียน ในการมอบโอกาสและสนับสนุนนักเรียนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเป็นการสืบทอดมรดกทางการศึกษาของหลักสูตรอังกฤษที่มีมานานเกือบ 500 ปีของโรงเรียนโชรส์เบอรี ที่ประเทศอังกฤษ พร้อม ๆ กับการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกไปพร้อม ๆ กัน

อแมนดา เดนนิสัน ครูใหญ่และครูผู้บริหารรุ่นก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส
อแมนดา เดนนิสัน ครูใหญ่และครูผู้บริหารรุ่นก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส

ชูแนวคิด 1 แคมปัส 2 เส้นทางการเรียนรู้

โปรแกรมฮั่นชิง เส้นทางการเรียนรู้สองภาษานี้จะเริ่มเปิดสอนให้กับนักเรียนตั้งแต่ชั้น Early Years 1-2 หรืออายุ 3-4 ขวบ เป็นต้นไป มีวัตถุประสงค์เพื่อปูพื้นฐานด้านภาษาจีนกลางและอังกฤษให้เด็กตั้งแต่เล็ก ส่งเสริมความเข้าใจในวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพิ่มโอกาสในโลกยุคใหม่ และเตรียมความพร้อมสู่ความสำเร็จด้านวิชาการและทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นพลเมืองโลกที่มีศักยภาพสูง

ADVERTISMENT

เป็นทางเลือกการเรียนสองภาษาระดับพรีเมี่ยมโดยโรงเรียนนานาชาติหลักสูตรอังกฤษ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์อนาคต ด้วยการให้ความสำคัญของการเรียนรู้ภาษาที่หลากหลาย ผ่านการผสานภาษาจีนกลาง ซึ่งเป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก และภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาสากลและเป็นภาษาหลักในการดำเนินธุรกิจ

ADVERTISMENT

โปรแกรมนี้ช่วยพัฒนาความสามารถทางภาษา เสริมสร้างความยืดหยุ่นทางวัฒนธรรม และการคิดเชิงวิเคราะห์ รวมทั้งยังมีการวางกรอบการเรียนรู้แบบบูรณาการ ที่ใช้เทคนิค CLIL (Content and Language Integrated Learning) ให้นักเรียนได้พัฒนาทักษะทางภาษาผ่านการเรียนรู้เนื้อหาของวิชาต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังเสริมสร้างโอกาสระดับมืออาชีพ โดยนักเรียนที่จบ Year 6 จากโปรแกรมฮั่นชิง จะมีความสามารถด้านภาษาจีนระดับ HSK 3-4 พร้อมสำหรับการศึกษาในหลักสูตร IGCSE และ A-Levels ซึ่งเป็นการเรียนในระดับชั้นมัธยมปลายตามหลักสูตรอังกฤษที่เข้มข้น รวมถึงเป็นการเพิ่มความได้เปรียบในตลาดแรงงานที่เชื่อมโยงกับโลกอนาคต ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ของการศึกษาสองภาษาในประเทศไทย โดยมุ่งพัฒนาเด็กไทยสู่พลเมืองโลกที่มีศักยภาพในการแข่งขันระดับสากล

ติดทักษะคิด วิเคราะห์ เป็นอาวุธ

ลูน่า เชา ครูใหญ่ ฮั่นชิง เส้นทางการเรียนรู้สองภาษา จีนกลางและอังกฤษ เปิดเผยว่า โปรแกรมฮั่นชิง เส้นทางการเรียนรู้สองภาษา จีนกลางและอังกฤษ เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสมากมายให้กับนักเรียน ด้วยเนื้อหาการเรียนที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยนักเรียนจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางภาษาในทุกมิติ

ทั้งวิชาการ ทักษะ และสภาพแวดล้อมการเรียน ผ่านภาษาจีนกลาง 45% ภาษาอังกฤษ 45% และยังมีภาษาไทยด้วยอีก 10% ส่วนครูผู้สอนเป็นเจ้าของภาษาที่มีคุณวุฒิเทียบเท่ากับใบรับรองการสอนของประเทศอังกฤษ (QTS Qualified Teacher Status)

ลูน่า เชา ครูใหญ่ ฮั่นชิง เส้นทางการเรียนรู้สองภาษา จีนกลางและอังกฤษ
ลูน่า เชา ครูใหญ่ ฮั่นชิง เส้นทางการเรียนรู้สองภาษา จีนกลางและอังกฤษ

โดยเป้าหมายในระยะยาวของโปรแกรมฮั่นชิงคือการปูพื้นฐานทางวิชาการที่แข็งแกร่งให้เด็กตั้งแต่ยังเล็ก ให้นักเรียนเอาไปต่อยอดในระดับมัธยมปลาย มหาวิทยาลัย และระดับมืออาชีพในโลกการทำงาน มีความสามารถทางภาษาในระดับเจ้าของภาษา มีความเข้าใจในวัฒนธรรมที่หลากหลาย ขยายมุมมองในระดับสากล และเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเตรียมความพร้อมให้นักเรียนประสบความสำเร็จในอนาคต

“การเรียนภาษาที่สองเป็นเรื่องจำเป็น เพราะสอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้ในการตั้งคำถามและแก้ปัญหา เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่ต้องเข้าสังคม ความรู้ด้านภาษาที่หลากหลายทำให้ช่วยให้เข้าใจความคิด หลักการ วัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ บนโลกได้ เด็กยุคใหม่ต้องมีความรู้ ทักษะ เท่าทัน AI และต้องเป็นผู้นำ AI ได้อย่างมีความคิดสร้างสรรค์”

กุญแจดอกใหม่ ประตูหลากหลายกว่าเดิม

ด้าน ผศ.ดร.อภิรดี เจริญเสนีย์ หัวหน้าสาขาภาษาจีน คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวสนับสนุนเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันทักษะสองภาษาถือเป็นภาษาพื้นฐาน เป็นกุญแจที่ช่วยให้เปิดประตูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งบาน

“ภาษาจีนเป็นภาษาที่สำคัญในโลกตะวันออก ส่วนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญในโลกตะวันตก เมื่อมีความรู้ควบคู่กันจะช่วยเสริมให้เด็กมีความรู้รอบด้าน ตลอดจนการที่เข้าใจวัฒนธรรมและวิธีคิด เป็นการลดช่องว่างในการสื่อสารทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน”