
เจเนซิส มีเดียคอม จำกัด เปิด 15 แนวทางปฏิรูปการศึกษาไทย เน้นสร้าง “คน” ให้มีคุณภาพ สร้างโอกาสการเรียนรู้ที่เท่าเทียม เสริมศักยภาพคนไทยทุกช่วงวัย พร้อมขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ย้ำ “การพัฒนาคน” เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อพลิกโฉมการศึกษาไทยให้ทันสมัยและตอบโจทย์โลกอนาคต
นายวิทยา มิตรศรัทธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเนซิส มีเดียคอม จำกัด ผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา เปิดเผยว่า การศึกษาไทยยังเผชิญหน้าความท้าทาย โดยอุปสรรคหลักของระบบการศึกษาไทย คือความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลยังขาดแคลนทรัพยากรพื้นฐาน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ดิจิทัล และสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย ครูขาดทักษะและทรัพยากรสนับสนุน หลักสูตรไม่ตอบโจทย์ทักษะศตวรรษที่ 21 เน้นท่องจำและวิชาการ
ทั้งยังขาดการเชื่อมโยงกับทักษะที่จำเป็น การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะดิจิทัล การบริหารจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ และระบบงบประมาณที่จำกัด การมีส่วนร่วมของชุมชนและผู้ปกครองผู้ปกครองยังขาดความรู้และทักษะในการสนับสนุนการเรียนรู้ของลูก
ทั้งนี้ จากประสบการณ์บริษัทมองเห็นว่ามี 15 แนวทางที่จะปูทางพัฒนาการศึกษา อัพเกรดโอกาส ปลุกพลังคน พลิกโฉมอนาคตประเทศในทุกมิติ ดังนี้
1.ปรับปรุงโครงสร้างเทคโนโลยีของโรงเรียน ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น จอภาพระบบสัมผัส คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พร้อมจัดตั้งพื้นที่สร้างสรรค์อย่าง Makerspace เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ สนับสนุนการศึกษานอกห้องเรียนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
2.สร้างโอกาสด้านเครื่องมือประจำตัวในการเข้าถึงสื่อการสอนและสื่อการเรียนรู้ โดยแจกแท็บเลตหรืออุปกรณ์ประจำตัวครูและนักเรียนภายใน 5 ปี พัฒนา Learning Management System (LMS) ให้ครอบคลุมทุกหลักสูตร และส่งเสริม Blended Learning ที่ผสมผสานการเรียนรู้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
3.เพิ่มความเป็นผู้นำเชิงนวัตกรรม ผ่านการอบรมผู้นำการศึกษา 30,000 คน ให้มีทักษะด้านการคิดเชิงกลยุทธ์และการใช้เทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการปรับปรุงระบบบริหารโรงเรียน (SMS) และนำระบบมาใช้วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนเพื่อช่วยพัฒนาแผนการเรียนการสอน
4.พัฒนาครูให้มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี โดยเปิดให้เข้าถึงซอฟต์แวร์สร้างบทเรียนดิจิทัล สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีในการวางแผนการสอนและประเมินผลนักเรียน และลดภาระงานเอกสารด้วยระบบอัตโนมัติเพื่อให้ครูมีเวลาสอนมากขึ้น
5.ยกระดับการสอนครู ด้วยการสร้างคลังสื่อการสอนออนไลน์ที่ครอบคลุมสื่อ 3D, VR, Metaverse และสื่อดิจิทัลอื่น ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Active Learning และ Problem-Based Learning รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และทักษะการแก้ปัญหา
6.อบรมครูอย่างต่อเนื่อง ผ่านหลักสูตรอบรม 500 หลักสูตรใน 5 ปี ครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น PBL และ Design Thinking สนับสนุนการเรียนรู้แบบ Mentorship เชื่อมโยงครูรุ่นใหม่กับผู้มีประสบการณ์ และใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงการอบรมได้สะดวก
7.พัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลและการสื่อสาร ที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างครู นักเรียน และผู้ปกครองผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงการแจ้งเตือนและติดตามผลสัมฤทธิ์
8.ส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน มีห้องสมุดดิจิทัลและแพลตฟอร์มคลังสื่อเพื่อการเรียนรู้ สนับสนุนการเรียนรู้เชิงโต้ตอบ (Interactive) ผ่านบทเรียนที่ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเสริมประสบการณ์การเรียนรู้
9.สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่าน Project-Based Learning และ Microlearning โดยเปิดโอกาสให้เรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้าถึงง่าย
10.พัฒนาผู้เรียนผ่านการฝึกฝน จัดตั้งแพลตฟอร์มออนไลน์แห่งชาติ สำหรับการเรียนรู้ ฝึกทำตะลุยโจทย์ ทำแบบข้อสอบผ่านระบบด้วยตนเอง ที่รองรับนักเรียน 2 ล้านคน และใช้ AI วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนรายบุคคลเพื่อพัฒนาแผนการเรียนรู้เฉพาะตัว
11.ส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษ จัดการเรียนการสอนแบบสองภาษาและกิจกรรม English Day มีแอปพลิเคชั่นช่วยพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่านและเขียน ส่งเสริมการฝึกภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมสนทนากับครูทักษะสูง พร้อมใช้ AI วิเคราะห์จุดอ่อนด้านภาษาของนักเรียนและช่วยพัฒนารายบุคคล
12.พัฒนาทักษะแห่งอนาคต ผ่านหลักสูตรที่จำเป็นเพื่อตอบสนองทักษะที่โลกคาดหวัง เช่น Coding, AI, Data Analysis และ Soft Skills พร้อมสนับสนุนการเรียนรู้แบบ Experiential Learning และ Problem-Based Learning
13.พัฒนาคนอย่างเป็นระบบด้วยเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาคนและครอบครัว (อพค.) ซึ่งเป็นเหมือน “ครูของชุมชน” ให้คำแนะนำด้านการศึกษา ทักษะอาชีพ และการใช้ชีวิตในทุกช่วงวัย สนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาครอบครัวและชุมชน พร้อมประสานทรัพยากรจากภาครัฐและเอกชนเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
14.สร้างแพลตฟอร์มวางแผนชีวิต ช่วยกำหนดเป้าหมายและวางแผนพัฒนาตนเองในทุกช่วงวัย ผ่าน LPP ID ที่เชื่อมโยงกับวิทยาลัยออนไลน์ตลอดชีวิต ใช้ AI และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ วิเคราะห์ศักยภาพ แนะนำเส้นทางพัฒนาอาชีพ ทักษะ และสุขภาพ พร้อม บันทึก Portfolio และเชื่อมโยงเครือข่ายที่ปรึกษาเพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
และ 15.ปรับกระบวนทัศน์การพัฒนาคน มุ่งพัฒนาคนแบบองค์รวม ที่ครอบคลุมทั้ง ร่างกาย สมอง และจิตใจ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพ ความรู้ และคุณธรรม นำไปสู่การเติบโตที่สมบูรณ์แบบและมีคุณภาพ เกิดความสำเร็จอย่างแท้จริงในประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ (Real Success Nation)