
DLTS เด่นหล้ากรุ๊ป ทุ่ม 600 ล้านบาท เปิดอาคารเรียนและสปอร์ตเซ็นเตอร์ใหม่ เดินหน้ายกระดับจากโรงเรียน 3 ภาษา สู่โรงเรียนนานาชาติเต็มรูปแบบ เจาะกลุ่มพ่อแม่ Gen Y ที่พร้อมจ่ายเพื่อการศึกษาคุณภาพสูงให้ลูก ในยุคที่ตลาดโรงเรียนนานาชาติโต 9-10% ต่อปี ตั้งเป้า 3 ปีเพิ่มนักเรียน 1,000 คน
ผศ.ดร.ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหารเด่นหล้ากรุ๊ป เปิดเผยว่า ในยุคที่การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดอนาคตของเด็ก DLTS International School โรงเรียนนานาชาติชั้นนำของประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้วยการลงทุนมูลค่า 600 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารเรียนและ Club House (Gymnasium/Sport Center) แห่งใหม่ พร้อมขยายหลักสูตรสู่ระดับ Grade 9 โดยมีกำหนดเปิดใช้งานในปีการศึกษา 2568
การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มพื้นที่การเรียนรู้ แต่ยังเป็นการยกระดับจากโรงเรียน 3 ภาษา สู่ โรงเรียนนานาชาติเต็มรูปแบบ ที่ตอบโจทย์เทรนด์การศึกษาแห่งอนาคตด้วยแนวคิด Personalized Learning ซึ่งเป็นที่ต้องการของครอบครัวยุคใหม่และ Gen Y ตอนปลาย ที่พร้อมจ่ายเพื่อการศึกษาคุณภาพสูงให้ลูก
ลงทุนใหญ่เพื่ออนาคตการศึกษาไทย
โรงเรียนนานาชาติ DLTS ได้เปิดอาคารใหม่เสริมทัพด้านวิชาการและกิจกรรมครบวงจร โดยมี 2 ส่วนหลัก ประกอบด้วย ตึกวิชาการ (Academic Building) มีห้องเรียนมาตรฐานสากล พร้อมอุปกรณ์การสอนที่ทันสมัย ออกแบบมาเพื่อรองรับหลักสูตร International Baccalaureate (IB) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก รวมถึง STEM Lab และ Robotics Center เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
และตึกกิจกรรม (Club House/Sport Center) ซึ่งมียิมเนเซียมขนาดใหญ่ สำหรับกีฬาหลากหลายประเภท เช่น บาสเกตบอล ฟุตซอล และแบดมินตัน รวมถึงสตูดิโอศิลปะและดนตรี ที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และ Swimming Pool มาตรฐาน สำหรับว่ายน้ำและการแข่งขัน
DLTS มีแผนขยายชั้นเรียนจนถึง Grade 9 ในปี 2568 โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้แบบ Project-based Learning และ STEM Education ซึ่งเป็นแนวทางที่มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกให้ความสำคัญ นอกจากนี้ โรงเรียนยังให้ความสำคัญกับทักษะภาษาที่ 3 โดยเฉพาะภาษาจีน เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนก้าวสู่ตลาดงานในยุคที่เศรษฐกิจจีนขยายตัว
5 ปัจจัยขับเคลื่อนความนิยมโรงเรียนนานาชาติในไทย
ถึงแม้ปัจจุบันอัตราการเกิดของเด็กไทยจะลดลง แต่ตลาดโรงเรียนนานาชาติยังเติบโต 9-10% ต่อปี สะท้อนความต้องการการศึกษาคุณภาพสูงจากผู้ปกครอง Gen Y ที่มองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก โดยมี 5 ปัจจัยขับเคลื่อนความนิยมโรงเรียนนานาชาติในไทย
1.ครอบครัวยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการศึกษา ผู้ปกครอง Gen Y ตอนปลายพร้อมลงทุนเพื่อการศึกษาที่ช่วยพัฒนาทั้งวิชาการและทักษะชีวิต เช่น Critical Thinking, Communication และ Collaboration
2.Personalized Learning : การเรียนรู้เฉพาะบุคคล โรงเรียนนานาชาติออกแบบการสอนให้เหมาะกับ Style การเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน รวมทั้งใช้ AI และ Data Analytics เพื่อปรับหลักสูตรให้ตรงกับความสนใจของผู้เรียน
3.หลักสูตรอนาคต : STEM, Coding, AI โรงเรียนนานาชาตินำหลักสูตรที่ตอบโจทย์โลกดิจิทัล เช่น Artificial Intelligence, Robotics, และ Data Science
4.เตรียมความพร้อมสู่มหาวิทยาลัยระดับโลกด้วยหลักสูตร IB และการสอบมาตรฐานสากล เช่น IELTS, SAT นักเรียนมีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัย Top Tier ทั่วโลก
5.มาตรฐานการศึกษาสากล โรงเรียนนานาชาติได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลก เช่น CIS, WASC, และ IBO ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจในคุณภาพ
Personalized Learning ที่ตอบโจทย์ Gen Alpha
DLTS มุ่งเน้นการเรียนการสอนแบบ Personalized Learning ซึ่งไม่ใช่แค่การปรับหลักสูตร แต่รวมถึงการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น กิจกรรมเสริมทักษะ เช่น ดนตรี กีฬา ศิลปะ และการแสดง Project-based Learning ที่ให้นักเรียนลงมือทำจริง และ Flexible Classroom ที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้แบบกลุ่มและเดี่ยว
“Personalized Learning จึงเป็นเทรนด์การศึกษาแห่งอนาคต เนื่องจากเด็ก Gen Alpha เรียนรู้เร็วและต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว การเรียนรู้ที่ปรับได้ตาม Style แต่ละคน ช่วยเพิ่ม Engagement พัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เช่น Creativity, Problem-solving และ Digital Literacy”
ตั้งเป้า 3 ปีเพิ่มนักเรียน 1,000 คน
ดร.เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ กรรมการบริหารเด่นหล้ากรุ๊ป และผู้อำนวยการบริหาร โรงเรียนนานาชาติ DLTS เปิดเผยต่อว่า สำหรับกลยุทธ์การตลาดและแผนขยายตัวของ DLTS ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักเรียนเป็น 1,000 คน ภายใน 3 ปี ด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน
1.เปิดตัวแคมเปญ Open House และ Roadshow จัดกิจกรรมเปิดบ้านเพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียนสัมผัสบรรยากาศการเรียนรู้ ร่วมมือกับ EdTech Startup เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีการศึกษาใหม่ ๆ 2.มอบทุนการศึกษาเพื่อดึงดูดนักเรียนเก่ง มีทุนการศึกษาสำหรับ Grade 2-7 สำหรับเด็กที่มีผลการเรียนดีหรือความสามารถพิเศษ และ 3.ขยายความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศสร้าง Partnership กับมหาวิทยาลัยและบริษัทชั้นนำเพื่อเพิ่มโอกาสในการฝึกงานและการศึกษาต่อ
กลุ่มเป้าหมายหลักของ DLTS คือ ครอบครัวคนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับการศึกษาที่มีคุณภาพและการพัฒนาทักษะที่หลากหลายของบุตรหลาน โรงเรียนมีแผนขยายฐานลูกค้าผ่านการจัดกิจกรรมเปิดบ้าน การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ และการสร้างความร่วมมือกับองค์กรและชุมชนในพื้นที่
ด้วยความพร้อมในทุกด้าน ทั้งประสบการณ์ของผู้บริหาร ความพร้อมด้านอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงคุณภาพของครูผู้สอนและนักเรียน DLTS International School มุ่งมั่นที่จะเป็นสถาบันการศึกษาที่เตรียมความพร้อมให้นักเรียนสู่ความสำเร็จในอนาคต
ดร.เต็มยศกล่าวปิดท้ายว่า นอกจากการเรียนรู้ภาษาที่สามอย่างภาษาจีน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทย เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน โรงเรียนยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะแห่งอนาคต
โดยมีวิชา AI and Innovation เพื่อปูพื้นฐานด้าน Coding และ Programming รวมถึงหลักสูตรพิเศษหลังเลิกเรียนที่หลากหลาย เพื่อเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสู่โลกอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยทีมครูผู้สอนที่มีคุณภาพและประสบการณ์ โดยสรรหาครูผู้สอนที่มีวุฒิตรงและมีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 2 ปี เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพสูงสุด