ชาวจีนรู้สึกไม่มั่นใจหลังไทยเกิดแผ่นดินไหว ตลาดท่องเที่ยวหดตัว 30%

นักท่องเที่ยว

นักวิชาการ มวล. เผยข้อมูลผลกระทบแผ่นดินไหวผ่านระบบติดตามโซเชียลมีเดียจีน พบตลาดท่องเที่ยวหดตัวกว่า 30% พร้อมขอความร่วมมือสื่อสารมวลชนนำเสนอประเด็นที่ถูกต้อง ใช้คำว่า Myanmar Earthquake แทน Thailand Earthquake

รองศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ รองอธิการบดีและรักษาการหัวหน้าสาขาวิชาการตลาดดิจิทัล ม.วลัยลักษณ์ (มวล.) เปิดข้อมูลสำคัญในห้วงสถานการณ์แผ่นดินไหว จากผลการประยุกต์ใช้เครื่องมือการฟังเสียงสังคมเพื่อกำหนดแผนภาพอนาคตตลาดการท่องเที่ยวของประเทศไทย

โดยดำเนินการร่วมกับสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) เพื่อมุ่งพัฒนาระบบบริหารจัดการความเสี่ยงในภาวะวิกฤตที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว ภายใต้การสนับสนุนทุนดำเนินการจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

ภายใต้โครงการวิจัยนี้ได้มีการดำเนินกิจกรรมผ่านเครื่องมือ Social Media Monitoring เพื่อติดตามและวิเคราะห์การสื่อสารของผู้ใช้โซเชียลมีเดียในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดการท่องเที่ยวใหญ่ของประเทศไทย บนแพลตฟอร์มเสี่ยวหงซู, โต่วอิน และวีแชท และแพลตฟอร์มชั้นนำอื่น ๆ ของประเทศจีน โดยเฉพาะกลุ่มผลกระทบด้านภาพลักษณ์ ความรู้สึก ความกังวล และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่อาจมีต่อการเดินทางมายังประเทศไทย

ผลวิจัยพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อประเทศไทย จากการสื่อสารที่เข้าใจว่าเป็นแผ่นดินไหวในประเทศไทย มีการกล่าวถึง “Thailand Earthquake” ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วคือเมียนมา แต่ประเทศไทยเป็นผลพวงหรือผลกระทบเท่านั้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนไม่แน่ใจและรู้สึกไม่ปลอดภัย

ส่วนนี้พบว่าจากข้อมูลของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ธุรกิจที่เป็นสมาชิกของ ATTA มีนักท่องเที่ยวจากจีนลดลงถึงราว 30 เปอร์เซ็นต์ มียอดการเดินทางเข้าประเทศเหลือเพียงประมาณ 6 พันคนต่อวันเท่านั้น นอกจากนั้นยังส่งผลต่อการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยวในอนาคตจึงต้องมีแผนรองรับ

ADVERTISMENT

รองศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์ยังระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในทิศทางนั้นยังมีความเห็นเชิงบวกและลบ สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมคือพร้อมที่จะเดินทางต่างต้องการความมั่นใจในการตัดสินใจ การจองในขณะนี้จึงปรากฏว่ามีการร้องขอใบรับรองความปลอดภัยของอาคารที่พักตึกสูงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องว่ามีความปลอดภัยเพียงพอ และยังพบว่าประเด็นข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มข้อมูลตึก สตง.ถูกลบหายไปจากระบบได้อย่างรวดเร็ว

“สิ่งที่กังวลในขณะนี้คือการเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ของประเทศไทย จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว แต่หากยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบกับยอดจองได้อย่างมาก”

ADVERTISMENT

นักวิจัยรายนี้ยังให้ข้อเสนอแนะด้วยว่า รัฐบาลควรเร่งแผนยกระดับการรับมือแก้ไขปัญหา และจัดการระบบสื่อสารในภาวะวิกฤต นำเสนอมาตรการการปฏิบัติการระหว่างภาวะวิกฤต และการบริหารจัดการภายหลังจากช่วงเวลานี้

การขอความร่วมมือสื่อสารมวลชนนำเสนอประเด็นที่ถูกต้องคือ Myanmar Earthquake แทน Thailand Earthquake เนื่องจากข้อเท็จจริง คือ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ประเทศเมียนมา แต่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทย การนำเสนอข้อมูลตึกถล่มเป็นผลกระทบเฉพาะพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรวางแผนใช้ KOL ชาวจีนเป็นกลุ่มช่วยนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเชิงบวกกับประเทศไทยต่อไป