
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระดมความร่วมมือภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วน และอิงฟ้า วราหะ ร่วมรณรงค์ “สงกรานต์นี้ กลับบ้าน พาลูกหลานกลับมาเรียน” ผ่านโครงการ “โรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School เพื่อเป็นทางเลือกให้เด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา
ช่วงปิดเทอมใหญ่ เมษายนของทุกปี ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่เด็ก เยาวชน และครอบครัวยากจน ด้อยโอกาส ตัดสินใจไม่กลับมาเรียน เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว การออกจากโรงเรียนมาทำงานหารายได้กลายเป็นทางออกของครอบครัวอย่างไม่มีทางเลือก สงกรานต์ปีนี้ กสศ.จึงชวนพี่น้องแรงงาน พ่อแม่ที่เสียสละเพื่อครอบครัว เดินทางกลับบ้าน นำข่าวดี ความหวัง ความฝัน และโอกาสการศึกษา กลับไปให้ลูกหลาน ผ่านโครงการโรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School ของ กสศ.
โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ระดมความร่วมมือภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วน ร่วมรณรงค์ “สงกรานต์นี้ กลับบ้าน พาลูกหลานกลับมาเรียน” เชิญชวนคนไทย บอกต่อข้อมูลโอกาสและทางเลือกการศึกษาฟรี ที่มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต ไปให้ถึงครอบครัวเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา หรือกำลังตัดสินใจจะไม่เรียนต่อเพราะความยากจน ด้อยโอกาส ผ่านโครงการ “โรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School เข้าเรียนไม่ได้ให้โรงเรียนไปหา” โดยมี เครือข่ายสื่อมวลชน ศิลปิน และหน่วยงานต่าง ๆ ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น เช่น อิงฟ้า วราหะ เครือข่ายศิลปิน หมอลำไอดอล บขส. เข้าร่วมรณรงค์ในครั้งนี้
นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดในปี 2567 ของ คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) ระดับชาติ พบว่า ประเทศไทยมีเด็ก เยาวชนนอกระบบการศึกษา ตั้งแต่ช่วงอายุ 3-18 ปี (เกิดระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2550-31 ธันวาคม 2564) จำนวนทั้งสิ้น 982,304 คน จากข้อค้นพบของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) พบว่า การเข้าไม่ถึงข้อมูลที่พาไปถึงโอกาสการศึกษา และการไม่มีทางเลือกอื่นในการศึกษาเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ชีวิต เป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ ผู้ปกครองและนักเรียนตัดสินใจไม่ศึกษาต่อ
นายพัฒนะพงษ์กล่าวต่อว่า กสศ.และภาคีเครือข่าย ริเริ่มโครงการ “โรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School เข้าเรียนไม่ได้ ให้โรงเรียนไปหา” เพื่อนำทางเลือกการศึกษาฟรี ยืดหยุน ตอบโจทย์ชีวิตไปให้เด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา และเริ่มต้นรณรงค์ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเชิญชวนครอบครัว พี่น้องแรงงานที่กำลังกลับบ้าน รวมถึงประชาชนทุกคนในสังคม บอกต่อข้อมูลโอกาสและทางเลือกการศึกษา ไปให้ถึงครอบครัว เด็ก เยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา หรือกำลังตัดสินใจไม่เรียนต่อ โดยตั้งเป้าช่วยเหลือน้อง ๆ ให้กลับมาเรียนได้ทัน เปิดเทอมใหม่ ปีการศึกษา 2568 เดือนพฤษภาคมนี้
โครงการ “โรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School เข้าเรียนไม่ได้ ให้โรงเรียนไปหา” กสศ.ร่วมมือกับ เครือข่ายศูนย์การเรียนโดยสถาบันทางสังคม ตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เครือข่ายสถานศึกษาที่จัดการศึกษายืดหยุ่น 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ รวมถึงสถานประกอบการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม นักวิชาชีพ และชุมชน ซึ่งมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญร่วมจัดการเรียนรู้ฟรีและได้วุฒิการศึกษาตามกฎหมาย ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ม.ต้น และ ม.ปลาย (ป.6, ม.3, ม.6)
โดยเน้นรูปแบบความยืดหยุ่นของการเรียน สามารถเรียนที่ไหนก็ได้ทั้ง Online และ Onsite มีครูพี่เลี้ยง ช่วยแนะแนว ให้คำปรึกษา และร่วมออกแบบแผนการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียนที่มีความพร้อม ความถนัด ความสนใจที่แตกต่างกันเป็นรายคน เน้นการศึกษากินได้ การเรียนรู้เพื่อปากท้องเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ต่อยอดสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยจะทำงานร่วมกับลุง ป้า น้า อา ในชุมชน ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง หรือที่เรียกกันว่า ผู้จัดการรายกรณี หรือ (Case Manager : CM) ของเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา ที่กระจายอยู่ในทุกหมู่บ้านทั้ง 77 จังหวัด ร่วมขับเคลื่อนโครงการ Thailand Zero Dropout ของรัฐบาล นายพัฒนะพงษ์กล่าว
ด้าน อิงฟ้า วราหะ กล่าวว่า เด็กบางคนที่ไม่มีโอกาสทางการศึกษา ในวันหยุดอาจจะต้องไปทำงานเพื่อนำเงินมาเรียน หรือบางคนก็ต้องทำงานยาวไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ บางครอบครัวไม่มีโอกาสมากพอที่จะเรียน บางบ้านที่มีลูกเยอะ ๆ ลูกคนโตคนกลางอาจจะต้องเสียสละที่จะไม่ได้เรียนหนังสือ ช่วงเทศกาลแบบนี้อยากให้ทุกคนพาลูกหลานกลับไปเรียน ไปเรียนในระบบ “โรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School” เพื่อให้เปิดเทอมมาแล้วเรียนทันเพื่อนก็ได้ เพราะการเรียนมีแต่ข้อดี ตัวฟ้าเองหากเกิดในยุคที่มีโครงการนี้ก็คงเป็นอีกคนที่มาเรียนเหมือนกัน เพราะ “โรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School” ทำให้เราสามารถทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยได้ ไม่เสียโอกาสอย่างใดอย่างหนึ่ง
โครงการโรงเรียนเคลื่อนที่ Mobile School เข้าเรียนไม่ได้ให้โรงเรียนไปหาของ กสศ. จะเริ่มตั้งแต่ ตลอดเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 นี้ โดยร่วมมือกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ดำเนินโครงการ Thailand Zero Dropout เคลื่อนขบวนคาราวาน จัดกิจกรรมแนะแนวการศึกษาและเปิดรับสมัครเด็กเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาให้กลับมาเรียน โดยเชิญชวนผู้สนใจทุกท่าน พบกันตามวันเวลาและสถานที่ ดังต่อไปนี้
วันที่ 22 เม.ย. 2568 เริ่มต้นกันที่ อบต.หนองสนิท อ.จอมพระ จ.สุรินทร์
วันที่ 24 เม.ย. 2568 พบกันที่ริมรางรถไฟเมืองขอนแก่น
วันที่ 28 เม.ย. 2568 ที่เทศบาลตำบลลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
วันที่ 30 เม.ย. 2568 พบกัน ณ อบต.ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะทำการเปิดรับสมัครเด็กและเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 7-24 ปี จากทั่วประเทศ ที่ไม่สามารถเรียนในโรงเรียนหรือสถานศึกษารูปแบบอื่นได้ ตั้งแต่ช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือหากจังหวัด และท้องถิ่นใดต้องการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาสการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ต่อไป