กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว สร้างการเรียนรู้สู่ศตวรรษ 21

เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ในการส่งเสริมเยาวชนให้เป็นคนเก่ง คนดี มีความรู้ คู่คุณธรรม ด้วยการนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ธนาคารกรุงไทยจึงเดินหน้าจัดโครงการ “กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12

เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนมัธยมปลาย และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทั่วประเทศ ส่งโครงงานเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่พลิกฟื้น หรือพัฒนาชุมชนด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สู่ความยั่งยืน เพื่อชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี และทุนการศึกษารวมกว่า 2.3 ล้านบาท

ล่าสุดมีทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศโครงการกรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ปีที่ 12 จำนวน 15 ทีม และได้มีการจัดกิจกรรม “ต้นกล้าแคมป์” ที่ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก เพื่อให้ทีมที่ผ่านเข้ารอบได้รับความรู้เกี่ยวกับการดำเนินโครงงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรู้ด้านการเงิน การพัฒนาชุมชน โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำแนะนำ พร้อมทั้งสร้างสัมพันธ์ระหว่างทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

“ศิริพร นพวัฒนพงศ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าโครงการกรุงไทย ต้นกล้าสีขาว จัดขึ้นเป็นปีที่ 12 ถือว่าเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ในการเพาะพันธุ์ต้นกล้าสีขาว ที่เปรียบเหมือนเยาวชนที่จะเป็นกำลังหลักของชาติในอนาคต ให้เป็นคนเก่ง คนดี มีความรู้ คู่คุณธรรม และรู้จักนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งสามารถขยายผลไปสู่ครอบครัวและชุมชนได้อย่างยั่งยืน

“ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ได้จัดโครงการนี้ขึ้นมาถือว่าเราได้รับผลตอบรับที่ดีขึ้นทุกปี ๆ โดยที่ผ่านมามีอาจารย์ นักเรียน นักศึกษาจากทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการรวมแล้วกว่า 30,000 คน ก่อให้เกิดโครงงานต่าง ๆ อีกกว่า 4,000 โครงงาน ตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสังคม ชุมชน และประเทศให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน”

สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบจำนวน 15 ทีม ในปีนี้ ประกอบด้วย 1) โครงการน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไร้ยุงกวน โรงเรียนเถินวิทยา จ.ลำปาง 2) โครงการวิถีพอเพียงผ่านไผ่มหัศจรรย์ สู่ชุมชนน้ำมวบใต้เงาเทือกเขาหลวงพระบาง โรงเรียนสาธุกิจประชาสรรค์รัชมังคลาภิเษก จ.น่าน 3) โครงการอนุรักษ์ไหมลูกแก้ว ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง หลีกเลี่ยงสารเคมี สู่วิถีความยั่งยืน โรงเรียนกันทรารมณ์ จ.ศรีสะเกษ 4) โครงการนางัวพัฒนา ผ้าครามภูไท สร้างวินัยทางการเงิน โรงเรียนแวงพิทยาคม จ.สกลนคร 5) โครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ก้าวตามรอยพ่อ โรงเรียนอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ

6) โครงการหัตถศิลป์สร้างสรรค์เสื่อยกลาย สร้างรายได้พัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โรงเรียนพุทไธสง จ.บุรีรัมย์ 7) โครงการ อ.ส.ศ. โมเดล ชุมชนพอเพียง สู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา จ.กาญจนบุรี 8) โครงการใบอ้อย T 4.0 สู่นวัตกรรมแห่งความพอเพียง โรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม จ.กำแพงเพชร และอื่น ๆ

“ศิริพร” กล่าวเพิ่มเติมว่าธนาคารกรุงไทยเชื่อว่าทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง15 ทีม จะได้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม การทำงานอย่างเป็นระบบ การนำเสนอผลงานอย่างมืออาชีพ ทั้งยังได้พบกับเพื่อนใหม่ ซึ่งเป็นประสบการณ์นอกห้องเรียนที่มีคุณค่า ที่สำคัญครู และโรงเรียนยังสามารถประยุกต์การดำเนินโครงงานของนักเรียน เพื่อตอบโจทย์ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ได้

“เพื่อให้กิจกรรมโครงการมีความต่อเนื่องและยั่งยืน เรายังมีการต่อยอดขยายผลชุมชนที่ประสบความสำเร็จจากโครงการ โดยยกระดับให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ อย่างที่ชุมชนบ้านจิกกะลา อ.กันทรารมณ์ จ.ศรีสะเกษ ที่เป็นโครงงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการจัดโครงการปีที่ 10 โดยทีมจิกกะลาโมเดล โรงเรียนกันทรารมณ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นต้น”

นับเป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง เน้นทักษะการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อมุ่งสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ต่อไป