“หมอธี” สั่งแก้ พ.ร.บ.การอุดมฯ ปลดล็อกปมขัดแย้งสภาวิชาชีพ

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับนพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. เกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องกับสถาบันอุดมศึกษา โดยเฉพาะกรณีกลุ่ม 11 สภาวิชาชีพ ซึ่งจะขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาถอดมาตราที่มีปัญหา เกี่ยวกับสภาวิชาชีพ และเรื่องกองทุนพัฒนาอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษา ออกจากร่างพ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ…. เพื่อให้จบเรื่อง ไม่เป็นปัญหาอีก ส่วนกรณีที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) เสนอให้รัฐบาลและศธ.ออกหนังสือเวียนและประกาศกลางถึงมหาวิทยาลัยของรัฐ ขอให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เรื่อง การแต่งตั้งผู้เกษียณอายุราชการเป็นอธิการบดีไม่ได้ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาระบอบนิติรัฐ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกแห่ง ลดปัญหาฟ้องร้องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 157 เนื่องจากคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดถือเป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายที่หน่วยงานรัฐทุกแห่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นั้น นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) รับเรื่องมาแล้ว ทั้งนี้แม้ว่าคำสั่งนี้จะมีผลเฉพาะมรภ.กาญจนบุรี ซึ่งศาลมีคำสั่งตัดสิน แต่มหาวิทยาลัยอื่นก็ต้องดู เพื่อไม่ให้เกิดการฟ้องร้องอีก

“ผมได้มอบหมายให้นายสุภัทร ไปดูรายละเอียด และเรียกประชุมนายกสภามหาวิทยาลัยรัฐ ที่มีอธิการบดีอายุเกิน 60 ปี แล้วหาทางออกให้ได้ เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัยจะต้องดำเนินการ” นพ.ธีระเกียรติกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ ทปสท.เรียกร้องให้มีเกณฑ์กลางเป็นแนวปฏิบัติในการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยรัฐ นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องมีเกณฑ์กลางเพราะศาลได้ตัดสินแล้ว ว่า ห้ามผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีเป็นอธิการบดี หรือรักษาการอธิการบดี ซึ่งเดิมที่มีการตีความเพราะมีข้อกำหนดว่า การสรรหาอธิการบดีให้เป็นไปตามข้อบังคับของสภามหาวิทยาลัย ขณะนั้นจึงตีความว่าได้ แต่เมื่อศาลปกครองสูงสุดตัดสินแล้ว ว่าถ้าเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ ก็ต้องอายุไม่เกิน 60 ปี เท่ากับว่า ที่ทำกันมาเป็น 10 ปี ได้รับการตัดสินแล้วว่า ทำไม่ได้ ดังนั้นมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ยังไม่ถูกฟ้อง ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ถูกฟ้อง สภามหาวิทยาลัยต้องรับผิดชอบ หาทางออกแก้ปัญหาให้ได้

 

ที่มา : มติชนออนไลน์