“โชรส์เบอรี” ดันศักยภาพนักเรียน ปูทางสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก

ALevel (Advanced Level General Certificate of Secondary Education) เป็นบททดสอบที่ท้าทายสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในช่วง 2 ปีสุดท้าย (year 12-13) ที่ต้องการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยหลักสูตรสหราชอาณาจักร โดย A Level จะใช้เวลาเรียนประมาณ 2 ปีหลังจากจบการศึกษาภาคบังคับในระดับมัธยมศึกษาระบบอังกฤษ หรือเรียกว่า GCSE (General Certificate of Secondary Education)

ทั้งนั้น หากมองถึงโรงเรียนอินเตอร์ของไทยที่มีความโดดเด่นด้วยหลักสูตรอังกฤษ และนักเรียนมีผลสอบ A Level ที่ดี จะต้องมีชื่อของ “โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ” ติดอยู่ด้วย โดยโรงเรียนแห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงเรียนเครือข่ายของ “โรงเรียนโชรส์เบอรี ประเทศอังกฤษ” ซึ่งเปิดสอนนักเรียนอายุ 3-18 ปี มีจุดแข็งด้านวิชาการ ผสมผสานการเรียนรู้ชีวิตและศิลปะ จากการหล่อหลอมนักเรียนเป็นอย่างดี ทำให้นักเรียนของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ สามารถทำคะแนนสอบ A Level ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนของนักเรียนในประเทศอังกฤษถึง 5 เท่า และทำคะแนนสอบ GCSE ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนที่นักเรียนในประเทศอังกฤษทำได้ถึง 3 เท่า


“โรเบิร์ต มิลลาร์” รองครูใหญ่ (หัวหน้าฝ่ายมัธยม) โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ริเวอร์ไซด์ แคมปัส กล่าวว่า โรงเรียนได้นำวัฒนธรรมของโรงเรียนแม่มาใช้ โดยมีแนวคิดสร้างนักเรียนที่มีความสมดุลด้านวิชาการซึ่งมีมาตรฐานสูง ผนวกกับความเข้าใจโลก มีทัศนคติดีในการใช้ชีวิต และเรียนรู้ชีวิตอย่างเชื่อมโยงกับบริบทของโลก

“เพราะเชื่อว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ใช่การทำข้อสอบให้ได้คะแนนสูง เราจึงมีแนวทางสอนเด็ก ๆ ให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ดีในโรงเรียน ซึ่งเหมาะสมกับช่วงวัย มีความสุขกับกีฬา การแสดง การเล่นดนตรี และการทำงานเพื่อสังคม แนวทางดังกล่าวส่งผลให้เด็ก ๆ มีความสุขในการเรียน เกิดเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และส่งผลให้พวกเขามีคะแนนการสอบทั้ง GCSE และ A Level ที่ดีไปด้วย”

การสอบ GCSE จะมีขึ้นเมื่อเด็กอยู่ year 10 และ year 11 โดยนักเรียนเลือกสอบประมาณ 6-10 วิชา เช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ และศิลปะ ผลการสอบจะแบ่งเป็น 7 ระดับ คือ grade A*-G ผู้ที่สอบได้ grade C ขึ้นไปอย่างน้อย 5 วิชาจึงจะถือว่าสอบผ่าน และจะสามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปศึกษา และสอบ A Level ใน year 12 และ year 13 เพื่อนำผลการสอบที่ได้ไปใช้ประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาระบบสหราชอาณาจักรได้ โดยผลการสอบ A Level มี 5 ระดับ คือ A*, A, B, C, D และ E ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะพิจารณารับนักเรียนที่มีผลการสอบในระดับ C ขึ้นไป

“ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ผลการสอบ A Level ของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ มีคะแนนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีล่าสุด พบว่า 44% ของนักเรียนที่เข้าสอบสามารถทำคะแนนได้ในระดับ A* ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอังกฤษถึง 5.5 เท่า และร้อยละ 69% ของนักเรียนที่เข้าสอบ GCSE สามารถทำคะแนนได้ในระดับ A*/A ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศอังกฤษถึง 3.2 เท่า ถือเป็นความสำเร็จของนักเรียนและครูผู้สอนทุกคน”

“โรเบิร์ต” อธิบายต่อว่า ครูคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพของเด็ก ๆ ตอนนี้โรงเรียนมีครูทั้งหมด 150 คน โดยเกือบ 100% เป็นคนอังกฤษที่มีประสบการณ์ในการสอนมาเป็นเวลานาน และครูจะมีการทำงานร่วมกันเป็นทีม รวมถึงแชร์ประสบการณ์และองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน

“เรามีครูที่สนุกกับการสอน และมีความรักในวิชาที่สอน โดยครูของเราจะให้คำแนะนำกับเด็กแบบ 1 ต่อ 1 และสังเกตจุดอ่อน-จุดแข็งของเด็ก ๆ อยู่เสมอวัฒนธรรมการทำงานของครูโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ คือ ambitious มุ่งมั่นในการสอน, expertise มีความรู้ความชำนาญ และ You are not on your own. คือ การทำให้นักเรียนรู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยว มีคนคอยสนับสนุนอนาคตแบบวันต่อวัน อีกทั้งครูยังมีการพูดคุยกับผู้ปกครอง เพื่อช่วยกันพัฒนาเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด”

ทั้งหมดนี้ช่วยให้นักเรียนสามารถต่อยอดและพัฒนาจนมีทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น เมื่อผนวกกับความตั้งใจใฝ่เรียนรู้ และความมุ่งมั่นของตัวนักเรียนเอง จึงกลายเป็นความสำเร็จที่ทำให้นักเรียนของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ เติบโตขึ้นเป็นบัณฑิตที่มีคุณภาพ ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกและของไทยได้

“นักเรียนของเราซึ่งสำเร็จการศึกษาของปี 2561 ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ทั้งในประเทศอังกฤษ เช่น มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และในสหรัฐอเมริกา เช่น มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ และมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ รวมทั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล”

“พิมรา สูงสว่าง” เป็นหนึ่งในนักเรียนที่ศึกษาเล่าเรียนที่โชรส์เบอรีมาตั้งแต่ระดับชั้น year 1 จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2561 โดยกำลังจะเดินทางไปศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในภาควิชาเศรษฐศาสตร์ที่ดิน ที่ควีนส์คอลเลจ (Land Economy, Queen”s College) มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ

เธอบอกว่า โรงเรียนส่งเสริมให้เด็กทุกคนมีส่วนร่วมในการทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งตรงกับความชอบของตัวเอง และกิจกรรมเพื่อสังคมของโรงเรียนยังช่วยฝึกฝนความเป็นผู้นำในตัวเอง จนเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอกล้าเป็นวิทยากรขึ้นพูดในงาน TEDx อีกทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้านักเรียนหญิง (Head Girl) และเป็นสมาชิกของโครงการนักกีฬาผู้นำ (Elite Athlete Programme) อีกด้วย

“หลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนมุ่งเน้นทั้งด้านวิชาการ และการพัฒนาศักยภาพตามความสนใจของนักเรียนแต่ละคน ทำให้เรารู้จักความถนัดของตัวเอง และรู้ว่าควรเลือกเรียนสาขาไหน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับอนาคต สะท้อนให้เห็นว่านักเรียนทุกคนสามารถประสบความสำเร็จในแบบฉบับของตัวเองได้”

จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับนักเรียน รวมถึงผลสอบ A Levels และ GCSE ที่ถือว่ามีความโดดเด่นอย่างยิ่งนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการร่วมมือกันจากทุกฝ่าย ทั้งนักเรียนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการเล่าเรียน รวมถึงโรงเรียนที่มีครูคุณภาพในการเอาใจใส่นักเรียน และเตรียมพร้อมให้นักเรียนเติบโตอย่างมั่นคงทั้งการเรียนในปัจจุบันและอนาคต