“ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล” ร่วมกับ “เลอ กอร์ดอง เบลอ อินเตอร์เนชั่นแนล” เปิดตัวโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต แห่งใหม่ ซึ่งจะตั้งอยู่บนชั้น 17-19 ของอาคารเซ็น ทาวเวอร์ (เซ็นทรัลเวิลด์) มีพื้นที่รวม 3,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท พร้อมเปิดการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ม.ค. 2562
“ศิรเดช โทณวณิก” กรรมการผู้จัดการฝ่ายการศึกษา ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า จากการปรับปรุงและขยายพื้นที่บริเวณโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนสอนประกอบอาหารเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต จะย้ายไปเปิดการเรียนการสอนในสถานที่แห่งใหม่ที่อาคารเซ็น ทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“นับตั้งแต่ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมมือกับเลอ กอร์ดอง เบลอ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดโรงเรียนสอนประกอบอาหารแห่งนี้ เมื่อปี 2550 จนถึงปัจจุบันสามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพกว่า 10,000 คน ให้เข้าสู่อุตสาหกรรมบริการและอาหาร เป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงแนวทางที่ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งดุสิตธานี ได้วางไว้ คือการพัฒนาคุณภาพคนต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาคุณภาพด้านการศึกษา โดยได้ถูกส่งต่อมายังผู้บริหารรุ่นต่อมา ซึ่งได้พัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนด้วยอุตสาหกรรมบริการและอาหาร”
โดยหลังจากนี้ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต จะเดินหน้าพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งรูปแบบการบริโภคและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่เน้นการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ รวมถึงมุ่งขยายโอกาสการเรียนรู้เรื่องการประกอบอาหารที่สามารถนำไปพัฒนาสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ที่เข้ามาเรียน เพื่อส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภคทั่วโลกต่อไป
“สุชาดา สถาปิตานนท์” ผู้บริหารโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวเสริมว่า หลักสูตรใหม่และการย้ายโรงเรียนในปี 2562 เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของโรงเรียนที่มุ่งผลิตบุคลากรคุณภาพสู่อุตสาหกรรมด้านอาหาร ผ่านการพัฒนาหลักสูตรใหม่ ๆ และได้สร้างผลตอบแทนให้กับกลุ่มผู้ร่วมทุน เพราะการย้ายโรงเรียนไปยังสถานที่แห่งใหม่ ทำให้สามารถรองรับจำนวนผู้เรียนได้มากขึ้น
“ด้วยพื้นที่ของโรงเรียนแห่งใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้เราสามารถรองรับนักเรียนได้เพิ่มขึ้นประมาณ 600 คนต่อปี ควบคู่ไปกับการเปิดหลักสูตรใหม่ ทั้งหลักสูตรการประกอบอาหารคาวและขนม และหลักสูตรการบริหารจัดการ อาทิ หลักสูตรการจัดการด้านอาหาร (Programme in Culinary Management) ที่จะเปิดในเดือน เม.ย. 2562 รวมถึงการเปิดคอร์สระยะสั้นด้านศิลปะการประกอบอาหาร อาหารอิตาเลียน งานน้ำตาลและช็อกโกแลต ตลอดจนการจับคู่ไวน์ ชีส และอาหารต่าง ๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการและเทรนด์ของตลาด”
อย่างไรก็ดี โรงเรียนแห่งใหม่จะยังคงจุดเด่นของโรงเรียนไว้ ทั้งเรื่องการตกแต่งโรงเรียน การวางแผนผังห้องเรียนและห้องปฏิบัติการครัว และพื้นที่ตั้งซึ่งอยู่บนทำเลใจกลางเมือง และย่านธุรกิจการค้า ซึ่งสะดวกสบายต่อการคมนาคม เพราะมีจุดจอดรถมากมาย รวมถึงใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส 2 สถานี คือ สถานีสยาม และสถานีชิดลม
โดยทำเลของที่ตั้งโรงเรียนแห่งใหม่จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้นักเรียนเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ทั้งจากร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และสถานที่สำคัญต่าง ๆ อีกด้วย