จี้ อค.ทำแผนฟื้นฟูเสนอ 29 ต.ค. เผย “ศึกษาภัณฑ์” สาขาเดียวที่ทำกำไร

จากกรณีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินองค์การค้าฯ โดยหนี้เร่งด่วนที่ต้องชำระ คือค่ากระดาษ และค่าจ้างพิมพ์ ประมาณ 1,300 ล้านบาท เฉพาะดอกเบี้ยเดือนละ 5 ล้านบาท และต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานอีกเดือนละ 40 ล้านบาท ขณะที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตัดโควต้าการจัดพิมพ์หนังสือเรียนขององค์การค้าฯ เหลือ 70% เบื้องต้นนายอรรถพลได้หารือร่วมกับผู้บริหารองค์การค้าฯ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าจะศึกษากฎหมายเพื่อทำแผนการถ่ายโอนพนักงานองค์การค้าฯ มายัง สกสค.ซึ่งปัจจุบันมี 1,200 คน นอกจากนี้ มีแนวคิดจะยกเลิกสัญญากับร้านค้าตัวแทนกว่า 100 แห่ง เพื่อเปิดซื้อขายเสรีแทน พร้อมทั้งเร่งสำรวจทรัพย์สิน และที่ดิน เพื่อขายลดหนี้ รวมถึง ยุบศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ที่ขาดทุนทั่วประเทศ โดยล่าสุดผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ยืนยันว่าการปิดศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ราชดำเนิน เป็นการปิดชั่วคราวนั้น

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นายอรรถพล เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้สินขององค์การค้าฯ ต้องเร่งแก้ไขให้เร็วที่สุด ตนได้หารือกับนายวีระกุล อรัณยะนาค ผู้ตรวจราชการ ศธ.ในฐานะปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ ถึงเเนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งปัจจุบันสังคมภายนอกรู้จักองค์การค้าฯ ด้านเดียวคือการจัดพิมพ์ และขายแบบเรียน แท้จริงเเล้วองค์การค้าฯ มีกิจการมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน เป็นต้น ดังนั้น ต่อไปองค์การค้าฯ ไม่ควรมุ่งขายแต่แบบเรียนเพียงอย่างเดียว ควรจะมุ่งขายสินค้าด้านอื่นๆ ให้กับโรงเรียนโดยตรง โดยใช้ข้อได้เปรียบที่องค์การค้าฯ มีอยู่ คือมีโรงพิมพ์ ที่สามารถจัดพิมพ์แจกเอกสารรายละเอียดสินค้าขององค์การค้าฯ ให้โรงเรียนทุกแห่งเลือกพิจารณาจัดทำรายละเอียดจัดซื้อจัดจ้างได้

นายอรรถพลกล่าวอีกว่า อีกทั้ง องค์การค้าฯ จะต้องปรับตัวให้รวดเร็ว พร้อมศึกษาความแปรปรวนของตลาดตลอดเวลา เพื่อหาแนวทางการทำงานได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ได้เสนอให้องค์การค้าฯ จัดเตรียมคณะทำงานขึ้น 1 ชุด ซึ่งจะมีตัวแทนในระดับปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานใน ศธ.เข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อวางแผนสร้างแนวทางการทำงาน หากมีตัวแทนของทุกแท่งใน ศธ.เข้าร่วม จะทราบว่าแต่ละเเท่งมีงบประมาณให้สถานศึกษาในสังกัดจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์การเรียนจำนวนเท่าไร จะทำให้องค์การค้าฯ จัดทำแผนปฏิบัติงานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น

“ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ ปัจจุบันมีศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ที่ทำกำไรได้จริงเพียงสาขาเดียวคือ ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ลาดพร้าว ส่วนสาขาอื่นที่ประสบปัญหาขาดทุน ต้องปรับรูปแบบ ปรับวิธีการบริหารงาน ปรับกลยุทธ์การขาย ซึ่งเป็นหน้าที่ขององค์การค้าฯ ว่าจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างไรให้ร้านค้าเหล่านี้อยู่รอด เพราะที่ผ่านมาองค์การค้าฯ ไม่มีกลยุทธ์ในการขาย เป็นฝ่ายตั้งรับเพียงอย่างเดียว ทำให้การดำเนินการบางอย่างอาจจะล่าช้า ต่อไปต้องทำงานด้านการตลาดเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ภายในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ องค์การค้าฯ จะต้องเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา” นายอรรถพล กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวแทนสหภาพแรงงานองค์การค้าฯ เตรียมยื่นหนังสื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการ ศธ.และ สกสค.ให้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงหาผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้องค์การค้าฯ เสียหายจากปี 2560-2561 ประสบปัญหาจัดพิมพ์ เเละส่งหนังสือล่าช้า นายอรรถพล กล่าวว่า สหภาพแรงงานฯ มีสิทธิยื่นหนังสือร้องเรียนขึ้นมา เพราะไม่ว่าใครต้องเป็นห่วงองค์กรของตนอยู่เเล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารต้องสืบหาข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงออกมาอย่างไร ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา แต่ขออย่าให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง

 

ที่มา : มติชนออนไลน์