การศึกษา

2 หมื่นครูหนี้วิกฤตขอ “ไกล่เกลี่ย-ประนอมหนี้” แบงก์ออมสินแล้ว

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พล.อ.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ว่า ธนาคารออมสินแจ้งข้อมูลล่าสุด ว่าลูกหนี้โครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ที่เป็นหนี้วิกฤตกว่า 4,000 ราย ได้ไกล่เกลี่ยหนี้กับธนาคารออมสินแล้ว ส่วนลูกหนี้ที่ธนาคารเตรียมฟ้องอีกกว่า 16,000 ราย ได้เข้ามาประนอมหนี้ จึงได้ฝากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) แจ้งไปยัง สกสค.จังหวัดทั่วประเทศ ว่าถ้ามีครูคนใดที่ยังไม่มาไกล่เกลี่ย หรือประนอมหนี้ ก็ให้เร่งดำเนินการ

พล.อ.โกศลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนของการประกันชีวิตครู ซึ่ง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้นโยบายว่าต่อไปครูที่กู้เงิน ช.พ.ค.และ ช.พ.ส.จะต้องมีสิทธิเลือกบริษัทประกันได้เอง ไม่ใช่ถูกบังคับให้เลือกเจ้าใดเจ้าหนึ่ง ขณะนี้มีบริษัทประกันภัยที่รับเสนอแล้ว 7 แห่ง รวมทั้ง บริษัททิพยประกันภัย แต่ปัญหาคือสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ผู้กู้ ช.พ.ค.และ ช.พ.ส.ที่ยื่นกู้เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ประมาณ 13,000 ราย จะครบสัญญา ฉะนั้น เดือนพฤศจิกายน ครูกลุ่มนี้จะต้องทำประกันชีวิตใหม่ แต่บริษัทประกันภัย 6 บริษัท เตรียมความพร้อมไม่ทัน ดังนั้น สกสค.ได้เจรจากับบริษัททิพยประกันภัย ให้ครูกลุ่มนี้ได้ทำประกันต่อ แต่ให้มีอายุสัญญาแค่ 1 ปี เผื่อปีต่อไปครูกลุ่มนี้จะเปลี่ยนไปทำประกันกับบริษัทอื่นอีก 6 แห่ง ทั้งนี้ ครูสามารถเลือกไม่ทำประกันกับบริษัททิพยประกันภัยก็ได้ แต่ครูจะต้องรับประกันความเสี่ยงเอง

“เมื่อเร็วๆ นี้ ผมยังได้ฝาก สกสค.ให้ตรวจสอบปัญหาการทุจริต ซึ่งคดีใหญ่ๆ ได้แก้ปัญหาไปบ้างแล้ว แต่คดีเล็กๆ ที่ซุกอยู่ใต้พรมยังมีอีกมาก ผมได้ฝากให้นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ.ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ไปขุดคุ้ย และดำเนินการให้ถูกต้อง เช่น กองทุนพระพฤหัสบดี ซึ่งจัดตั้งขึ้นในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นกองทุนเบื้องต้นในการช่วยเหลือครู หรือกรณีที่ สกสค.เคยนำเงินไปไว้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อช่วยเหลือครู สุดท้ายถูกยกเลิก แล้วนำเงินมาให้ผู้บริหารกู้แทน กรณีแบบนี้มียู่อีกมาก เป็นเหมือนหอกข้างแคร่ที่คอยสร้างความรำคาญให้ตลอดเวลา “พล.อ.โกศล กล่าว

พล.อ.โกศลกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้ย้ำกับ สกสค.ให้ดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพสมาชิกให้ดีที่สุด แต่ไม่อยากให้เน้นเฉพาะสมาชิกที่ยังอยู่ในราชการ สมาชิกที่เกษียณอายุราชการแล้วก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะครูที่เป็นสมาชิก และมีคดีความ ซึ่งบางคนตกเป็นแพะ จึงอยากให้ผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด หารือกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) หาทีมกฎหมายลงไปช่วยครูเหล่านั้นด้วย อย่าปล่อยให้ครูสู้เองลำพัง

 

ที่มา : มติชนออนไลน์