กลุ่มทรูส่งเสริมการสร้างสรรค์สังคมแห่งการเรียนรู้ โดยทรูปลูกปัญญาได้จัดกิจกรรม “เปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้สู่การบริหารจัดการสถานศึกษายุคดิจิทัล” นำคณะผู้บริหาร ครู และผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (ICT Talent) จากโรงเรียนภายใต้โครงการทรูปลูกปัญญาที่มีผลสัมฤทธิ์การจัดการศึกษาในระดับยอดเยี่ยม เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศเกาหลีใต้
การเดินทางครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจาก ร.ร.บ้านไร่อ้อย จ.พะเยา, ร.ร.บ้านภูมินิยมพัฒนา จ.สุรินทร์, ร.ร.บ้านหนองเงือก จ.ลำพูน, ร.ร.เจียรวนนท์อุทิศ 4 (บ้านหนองหญ้าปล้อง) จ.เลย, ร.ร.วัดปะโอ จ.สงขลา, ร.ร.บ้านซับผักกาด จ.นครสวรรค์ และ ร.ร.อนุบาลสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ศึกษาดูงานที่ซิลิคอนวัลเลย์แห่งเอเชีย หรือเมืองแทจอน ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองแห่งอนาคตของวิทยาศาสตร์
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
โดยได้เยี่ยมชม Korea Science Academy of KAIST (KSA) สถาบันแห่งแรกของเกาหลีใต้ที่เปิดการเรียนการสอนนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีศักยภาพสูงด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Korea Ad-vanced Institute for Science and Technology (KAIST) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและเปิดพื้นที่ให้นักเรียนได้คิดค้น ทดลอง และสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านกระบวนการทำงานวิจัยด้วยตนเอง
นอกจากนั้น คณะยังได้เยี่ยมชมPung Saeng Middle & High School ซึ่งเชื่อมโยงครูและนักเรียนให้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้แบบครบวงจร มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ผ่านการใช้ไอซีที อย่างการใช้แอปพลิเคชั่นออกแบบห้องเรียนให้สนุก ผ่านแอปพลิเคชั่น Socrative Student โดยครูจะทบทวนแผนการสอนแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพื่อประเมินแผนการสอนของผู้เรียนเชิงลึก และปรับแผนให้ตอบโจทย์การพัฒนาทักษะของผู้เรียน
“ยุทธนา สัมฤทธิ์ผ่อง” ผู้อำนวยการร.ร.บ้านภูมินิยมพัฒนา จ.สุรินทร์ กล่าวว่าการใช้เทคโนโลยีของโรงเรียนในประเทศเกาหลีใต้น่าสนใจมาก สามารถใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐานมาบูรณาการใช้กับนักเรียนได้เป็นอย่างดี เช่น เฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนใช้อยู่แล้ว
“ในส่วนของแอปพลิเคชั่นสำหรับการตอบคำถามซึ่งประเทศไทยมีอยู่แล้วก็สามารถนำมาใช้จัดกระบวนการเรียนการสอนในห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนรู้สึกสนุกและได้รับความรู้ไปในตัว ถือเป็นเรื่องดีและเป็นประโยชน์อย่างมาก ซึ่งผมจะนำประสบการณ์ที่ได้รับกลับมาประยุกต์ใช้กับครูและโรงเรียนให้ได้มากที่สุด”
ขณะที่ “ดวงกมล ดำเพชร” ครู ร.ร.วัดปะโอ จ.สงขลา หนึ่งในผู้ร่วมโครงการ กล่าวว่า ทุกอย่างนับเป็นเรื่องแปลกใหม่ ตนอยากนำห้องเรียนเหล่านี้ไปพัฒนาโรงเรียน รวมถึงนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ได้เห็นจากการศึกษาดูงานครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้กับโรงเรียน ซึ่งคิดว่าจะสามารถดึงดูดเด็กให้สนใจและตั้งใจเรียนมากขึ้น
“ส่วนตัววางไว้ว่าจะเน้นเรื่องการให้เด็กได้ลงมือทำมากขึ้น เพื่อให้นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการเรียนรู้จริง สามารถต่อยอดความรู้และทักษะของตัวให้ดียิ่งขึ้นและพัฒนาแบบก้าวกระโดด”
นอกจากนี้ คณะยังได้เยี่ยมชม Samsung D”light ศูนย์แสดงนิทรรศการแบบ digital playground ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคารสำนักงานใหญ่ของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ที่พาท่องโลกอนาคตแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว รวมถึงหอสมุดแห่งชาติเกาหลีที่รวบรวมหนังสือไว้มากกว่า 4.3 ล้านเล่ม โดยนำเทคโนโลยีมาสร้างความสะดวกในการสืบค้น รวมถึงการสร้างระบบจัดเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ