“ทีเอ็มบี” FAI-FAH เปิดพื้นที่ให้เด็ก ค้นหาศักยภาพตัวเอง

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ็มบี สานต่อโครงการไฟ-ฟ้า (FAI-FAH) ด้วยแคมเปญ “เด็กธรรมดาคือ สิ่งที่สวยงาม” พร้อมเปิดตัววิดีโอถ่ายทอดเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจที่ได้รับการจุดประกายจากศูนย์ไฟ-ฟ้า เพื่อกระตุ้นสังคมไทยเปิดโอกาสสร้างพื้นที่ให้กับเด็กธรรมดามีพลังในการค้นหาตัวเอง และเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันชุมชนและสังคม

“ปิติ ตัณฑเกษม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า โครงการนี้เกิดจากมุมมองที่ทีเอ็มบีต้องการเปลี่ยนชีวิตของคนในสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยเล็งเห็นว่าเด็กทุกคนมีพลัง และเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันชุมชนไปในทิศทางที่ดีได้

ปัจจุบันโครงการไฟ-ฟ้า ก้าวเข้าปีที่ 10 และในปีนี้มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนเด็กในชุมชนที่ขาดโอกาส หรือมีต้นทุนติดลบ ให้สามารถค้นพบศักยภาพของตัวเอง แล้วนำไปต่อยอดสร้างอาชีพให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเมื่อเด็กได้รับโอกาสจากโครงการแล้ว จะเปลี่ยนเป็นผู้ให้คืนกลับสู่สังคมในอีกทางหนึ่งด้วย

“กาญจนา โรจวทัญญู” หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ทีเอ็มบี กล่าวเสริมว่า ที่มาของแคมเปญเด็กธรรมดาคือสิ่งที่สวยงาม เกิดจากมุมมองของทีเอ็มบีที่เชื่อว่า ในความธรรมดานั้นมีสิ่งสวยงามซ่อนอยู่ จึงส่งเสริมให้เด็กธรรมดาได้มีโอกาสในการแสดงความสามารถของตนเอง พร้อมทั้งนำเสนอให้สังคมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็ก ๆ ที่ได้รับการจุดประกายจากศูนย์ไฟ-ฟ้า

“ที่ผ่านมาทีเอ็มบีได้ทำงานกับเด็กในชุมชนที่ขาดโอกาส จึงอยากเปิดโอกาสให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนรู้และปรับตัวเองจากต้นทุนติดลบมาเป็นเด็กธรรมดา โดยมีพื้นที่ที่สามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ดึงเด็กเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยห่างจากยาเสพติด ทำให้รู้ถึงศักยภาพและความต้องการของตัวเอง”

“ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า เราเปิดโอกาสให้เด็กจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยในชุมชน สามารถเข้ามาเรียนรู้เรื่องศิลปะและทักษะชีวิต โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี ที่เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ มีความคิดเป็นของตัวเอง ค้นหาในสิ่งที่ใช่ กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งกิจกรรมที่เรียนรู้จะใช้บริบทและความต้องการของชุมชนมาเป็นโจทย์หลัก เพื่อให้นำไปต่อยอดสร้างอาชีพและมีรายได้มาสู่ชุมชนด้วย”

สำหรับหลักสูตรที่เปิดให้เด็กเข้ามาเรียนรู้นั้น “กาญจนา” บอกว่า จะใช้เวลาต่อเนื่อง 3 ปี เพื่อให้เด็กได้ค้นพบและมีความเชี่ยวชาญ เพื่อสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้จริง ซึ่งเกณฑ์การวัดผลเน้นจากการทำโปรเจ็กต์ ด้วยการเรียนการสอนของศูนย์เน้นเรื่องการปฏิบัติ การทำกิจกรรมจากโจทย์ของครูผู้สอน เพื่อให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ โชว์ศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่

“ในทุกปี ๆ เราจะจัดนิทรรศการโชว์ผลงานของเด็ก เพื่อให้ผู้ปกครองและบุคคลภายนอกเห็นศักยภาพของเด็ก รวมทั้งสร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้ปกครอง ซึ่งสิ่งที่เราคาดหวัง คือ ต้องการให้เด็กได้รู้จักตัวเอง ตรงนั้นถือเป็นความธรรมดาที่สวยงามอยู่แล้ว เพียงแต่สังคมต้องคอยสนับสนุน ดูแล ให้เด็กได้ทำในสิ่งที่เป็นความสุข และความภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำเท่านั้นเอง”

กิจกรรมนี้จึงเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้เยาวชนเกิดแรงบันดาลใจ นำไปสู่การค้นพบศักยภาพ และสามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคต รวมถึงเป็นการสร้างสิ่งดี ๆ และต่อยอดสู่การสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน