ประสบการณ์จาก “คริมสัน” โค้ชเด็กเข้ามหา”ลัยโลก 100%

แต้มต่อสำคัญที่จะทำให้เติบโตในเส้นทางการทำงาน ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากมีประสบการณ์และเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกแล้ว เท่ากับว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง ฉะนั้นครอบครัวที่มีความพร้อมก็จะผลักดันให้บุตร-หลาน ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเหล่านั้น ทันทีที่ก้าวเดินออกจากมหาวิทยาลัย องค์กรต่าง ๆก็พร้อมอ้าแขนรับและผู้ที่จะยืนยันให้ข้อความข้างต้นมีน้ำหนักขึ้นไปอีกคือ “เจมี่ บีตั้น” (Jamie Beaton) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท คริมสัน เอ็ดดูเคชั่น (Crimson Education) ที่จับจุดความต้องการเหล่านั้น สามารถจับมาเป็นธุรกิจ ด้วยการเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้สนใจเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำจะต้องเตรียมตัวอย่างไร เพราะเขาใช้ประสบการณ์ตรงที่เคยเข้าเรียนจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) มาถ่ายทอดต่อ ถามว่าทำไมต้องเชื่อมั่นในเจมี่ เหตุผลคือ เขาใช้เวลาเรียนเพียง 3 ปี และยังได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งทั้งปริญญาตรีและโทในสาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์และเศรษฐศาสตร์

คุณสมบัติของเจมี่ ถือเป็นเส้นทางที่เปอร์เฟ็กต์ เพราะในช่วงที่เขาสมัครเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยนั้น เขามุ่งตรงไปยังมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ top 25 ของโลกเท่านั้น และเขาก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยทุกแห่ง รวมไปจนถึงมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford) และเคมบริดจ์ (Cambridge)

จุดแข็งของเขาในด้านการเรียน ทำให้ตัดสินใจสร้าง “คริมสัน เอ็ดดูเคชั่น” ให้มีอัลกอริทึ่มและหลักสูตรที่เป็นเหมือนโค้ชช่วยนักเรียนให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยระดับโลกได้ ด้วย 26 สาขาทั่วโลก รวมทั้งมีสาขาในประเทศไทยด้วย

“เจมี่” เล่าว่า ผมเติบโตในนิวซีแลนด์ มีเด็กที่นั่นจำนวนไม่มากที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ ตอนที่ผมได้ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่สหรัฐอเมริกา ผมมีประสบการณ์ได้พบนักศึกษาที่มีศักยภาพสูง มันได้เปลี่ยนมุมมองของผม

จากนั้นจึงก่อตั้งคริมสัน เอ็ดดูเคชั่นในประเทศนิวซีแลนด์ในปี 2013 มีความคิดอยากช่วยนักเรียนในนิวซีแลนด์ให้ได้มีประสบการณ์เหมือนที่ผมเคยเจอ และพบว่ามันได้ผลดี จึงขยายออกไปประเทศอื่น ๆ และผมพบว่าประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่พ่อแม่ให้ความสำคัญเรื่องการศึกษามาก จึงมาเปิดสาขาที่นี่”

จุดเด่นที่ทำให้คริมสันฯเป็นบริษัทด้านการศึกษาที่น่าจับตามองมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มาจาก 2 ปัจจัยที่ผสมผสานกันระหว่าง data base และอัลกอริทึ่มช่วยทำให้โลกเล็กลง โดยเด็กทั่วโลกมีโอกาสเข้าถึงเมนเทอร์จากต่างประเทศที่เรามีรองรับกว่า 2,300 คน ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่เคยผ่านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ

นอกจากนี้ยังใช้จิตวิทยาในการวิเคราะห์และช่วยในการตัดสินใจ และประสบการณ์ของเราทำให้รู้ว่าเราจะโค้ชนักเรียนแบบไหนให้ประสบความสำเร็จในการสร้างโปรไฟล์ เมื่อพิจารณาจากสถิติของคริมสันฯ จะพบว่า สามารถช่วยให้ผู้เรียนพร้อมและสอบเข้าได้ 3.7 เท่า เมื่อเทียบกับนักเรียนที่ไม่ได้ใช้บริการของคริมสันฯ

“ด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้นักเรียนของคริมสันฯได้รับการตอบรับจากไอวีลีก (Ivy League) ซึ่งคือกลุ่มมหาวิทยาลัยในอเมริกาที่มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านคุณภาพการศึกษาที่ดี และได้รับการยกย่องจากนักศึกษาทั่วโลกถึง 133 ครั้ง รวมถึงจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ถึง 38 คนในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งบางสถาบันมีอัตราการรับนักศึกษาเข้าเพียงแค่ 5% เท่านั้น”

“เจมี่” บอกว่า เรื่องความเป็นผู้นำยังเป็นสิ่งที่เด็กไทยมีไม่พอ และมันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างโปรไฟล์ให้พร้อม จึงจัดให้มีหลักสูตรที่สอน soft skill เช่น การสื่อสาร ความมั่นใจ ความเป็นผู้นำ และการเข้าใจความรู้สึกของตนเอง (self-awareness) เสริมเข้าไปอีกด้วย

“เราตั้งใจให้หลักสูตรเหล่านี้เป็นมากกว่าตัวช่วยโปรไฟล์สอบเข้ามหาวิทยาลัย เพราะในขณะเดียวกันมันช่วยพัฒนาทักษะส่วนตัวของนักเรียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ติดตัวพวกเขาในระยะยาว”

ในปัจจุบันคริมสันฯเติบโตอย่างรวดเร็วเติบโต 2 เท่าทุกปีติดต่อกัน ชื่อเสียงกระจายเป็นไปแบบปากต่อปาก โดยเฉพาะในอเมริกา ลอนดอน เซี่ยงไฮ้ และเกาหลี “เจมี่” ยังบอกอีกว่า ในปีหน้าผมมีแผนที่จะขยายสาขาอีก เช่น อินเดีย เพราะตอนนี้เรามีนักเรียนอินเดียมาก นอกจากนั้นเราจะเปิดโรงเรียนออนไลน์ที่เป็นเหมือนโฮมสกูลระดับ ม.ปลายด้วย โดยอ้างอิงจากหลักสูตรของอังกฤษ

ด้านผลลัพธ์ของนักเรียนไทย “สุจารี ชู” กรรมการผู้จัดการ บริษัท คริมสัน เอ็ดดูเคชั่น ประเทศไทย กล่าวว่า นักเรียนไทยมีอัตราเข้ามหาวิทยาลัยท็อป 8 ได้ถึง 100%

“สิ่งที่เด็กไทยควรจะเตรียมพร้อมในการเข้ามหาวิทยาลัยคือ การเรียนต้องแข็ง มีความเป็นผู้นำ และบริหารจัดการเวลาที่ดี ส่วนคณะที่นักเรียนของเราส่วนใหญ่สนใจจะเป็นด้านธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และแพทย์”

อย่างไรก็ตาม นักเรียนของคริมสันฯจะได้เรียนรู้แบบ personalize และเรียนหนึ่งต่อหนึ่ง และมีความเป็นโค้ชที่มากกว่าที่จะเป็นคนป้อนข้อมูล ที่สำคัญเด็กต้องเรียนรู้ด้วยการลงมือด้วยตัวเอง

และเมื่อนำมาผสมผสานกับแนวทางการสอนของคริมสันฯแล้ว ไม่ว่ามหาวิทยาลัยชั้นนำแค่ไหน ที่นั่งหนึ่งในนั้นจะมีผู้ที่ผ่านการเตรียมพร้อมจากคริมสันฯ จะมีที่นั่งเสมอ