การศึกษา

รับเทรนด์ธุรกิจอาหารบูม “คูลิเนอร์” ปั้นคอร์สคุณภาพ

โรงเรียนศิลปะการอาหาร และผู้ประกอบการคูลิเนอร์ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2561 ตั้งอยู่บนชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม มีการเรียนการสอน 4 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรประกาศนียบัตร แบ่งออกเป็น 4 โมดูลหลัก โดยโมดูลสุดท้ายจะเป็นการจัดการธุรกิจอาหาร รวมถึงมีหลักสูตรผู้ประกอบการ และการบริหารจัดการ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการความรู้เรื่องการบริหารจัดการธุรกิจอาหารโดยเฉพาะ เพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรเร่งรัด และหลักสูตรระยะสั้น สำหรับผู้ที่สนใจเรียนทำอาหาร แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา

“แอนโทนี ออสบอร์น” ผู้อำนวยการใหญ่ คูลิเนอร์ บอกว่า ความนิยมในการเรียนทำอาหารในปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากแต่จะประสบความสำเร็จบนเส้นทางธุรกิจการทำอาหารและร้านอาหารนั้น จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ, การจัดการต้นทุน, การตลาด,การบริหารคน หรือแม้แต่การมองแนวโน้มตลาด เป็นต้น

“โรงเรียนศิลปะการอาหารเข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลายคนไม่ได้เลือกเรียนเพราะความสนใจในการทำอาหารเท่านั้น แต่ต้องการนำความรู้ไปประกอบอาชีพ และต่อยอดทางธุรกิจอีกด้วย ซึ่งคำที่บอกว่าอาหารอร่อย อย่างไรแล้วก็ขายได้ คงใช้ไม่ได้อีกต่อไป เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผนวกกับการแข่งขันที่สูงขึ้น ล้วนส่งผลต่อความอยู่รอดของธุรกิจอาหาร”

“ผมมองว่าโรงเรียนที่สอนด้านการประกอบอาหารหากมีหลักสูตรการทำอาหารอย่างเดียวอาจไม่พอ การจัดการธุรกิจก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงาน วิธีการขยายธุรกิจการสร้างแบรนด์ และการบริหารพนักงาน”

“ชัชชญา รักตะกนิษฐ” ผู้อำนวยการด้านการศึกษา กล่าวเสริมว่า ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ตรงในการธุรกิจอาหารสามารถเริ่มก้าวแรกได้ที่คูลิเนอร์ ซึ่งจะได้ความรู้พร้อมใช้ ทั้งความรู้ในส่วนที่เกี่ยวกับตำรา และการฝึกปฏิบัติ โดยประสบการณ์ที่ผู้เรียนได้รับตลอดหลักสูตร จะทำให้พวกเขาพร้อมสำหรับการเริ่มต้นอาชีพ หรือสร้างธุรกิจหลังจากที่สำเร็จการศึกษา

“เพราะคูลิเนอร์เป็นโรงเรียนศิลปะการอาหารที่เน้นการเรียนรู้เชิงปฏิบัติตลอดหลักสูตร เวลาส่วนใหญ่มากกว่า 70% คือการลงมือทำ โดยโรงเรียนมีหลักสูตรเร่งรัดหรือคอร์สระยะสั้น สำหรับผู้ที่มีความต้องการค้นหาตัวเอง หรือสิ่งที่ตัวเองชอบโดยหลายคนเมื่อเรียนแล้วรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเอง พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะสมัครเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตร หรือหลักสูตรระยะยาว 2 ปี”

“นอกจากอุปกรณ์การเรียนด้านฝึกปฏิบัติที่ครบครัน ทันสมัย และมีมาตรฐานแล้ว เรายังนำนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ในห้องเรียน นักเรียนทุกคนที่คูลิเนอร์จะได้รับแท็บเลตคนละ 1 เครื่อง ทุกอย่างที่เรียนในห้องเรียนจะถูกส่งตรงจากกระดานอัจฉริยะสู่แท็บเลตทำให้นักเรียนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ตลอดเวลา เพราะที่คูลิเนอร์เราเชื่อว่า ทุก ๆ ที่คือห้องเรียน”

การเรียนรู้ของคูลิเนอร์ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แต่ในห้องเรียน ทุกพื้นที่ในโรงเรียนถูกจัดสรรอย่างเป็นสัดส่วน แบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก คือ ห้องเรียนครัวภาคปฏิบัติจำนวน 6 ห้อง ซึ่งมีห้องสำหรับเบเกอรี่ และเพสทรี่ และห้องสำหรับอาหารคาว รวมถึงมีห้องเรียนอีก 4 ห้อง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ส่วนกลาง อย่างห้องอาหารการ์นิช (Granish) ห้องอาหารเฟลเวอร์ (Flavours) ร้านเบเกอรี่และเพสทรี่เกลซ (Glaze) ที่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้บริการ โดยในส่วนนี้นักเรียนจะได้ฝึกทักษะการปฏิบัติงานจริงทั้งการให้บริการ และการบริหารจัดการร้าน

สำหรับหลักสูตรและการเรียนการสอนของคูลิเนอร์ได้รับการพัฒนาจาก Lausanne Hospitality Consulting (LHC) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการศึกษาของ Ecole Hoteliere de Lausanne (EHL) หนึ่งในสถาบันสอนการโรงแรมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ดี และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก