ถึงแม้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเป็นศาสตร์ที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มาอย่างยาวนาน กระนั้น ด้วยความที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เปิดสอนในศาสตร์ด้านสังคมเช่นกัน จึงทำให้หลายคณะเริ่มขยับตัว เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับ สจล.มากยิ่งขึ้น
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้คือ คณะการบริหารและจัดการได้ขยับองคาพยพทั้งระบบ โดยผุดแผนการดำเนินงานที่จะนำคณะก้าวไปสู่ระดับต้น ๆ ของอาเซียน และโลก ด้วยนโยบาย From FAM (Faculty Administration and Management) to FAMOUS
ตั้งเป้าจำนวน นศ.โตกระโดด
- เปิดคำทำนาย “นางมโหธรเทวี” นางสงกรานต์ ปี 2567 ฝนตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า
- แคดเมียมมีดีอะไร ทำไมแค่กากยังมีคนอยากได้?
- น้ำมันทำอาหารใช้แล้วอย่าทิ้ง บางจากรับซื้อ กก.20 บาท เช็ก 162 จุดรับซื้อ
“ดร.สุดาพร สาวม่วง” คณบดีคณะการบริหารและจัดการ สจล. ให้รายละเอียดถึงนโยบายดังกล่าวว่า FAMOUS เป็นคำย่อมาจาก family, ability, management,outstanding, universal และ standardizeกล่าวคือ ทุกคนในคณะจะร่วมมือกันพา FAM ให้มีความเข้มแข็งเทียบชั้นระดับประเทศ อาเซียน และระดับโลก ผ่านการบริหารแบบมืออาชีพ ซึ่งจะนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย และตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมาใช้จัดการการเรียนการสอนอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ
โดยตั้งเป้าว่าหลักสูตรของคณะต้องผ่านเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาจาก ASEAN University Network (AUN) และ Association to Advance Collegiate Schools of Business (AACSB) เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถ และมีสมรรถภาพให้กับตลาดแรงงาน
“ตอนนี้เรากำลังก่อสร้างอาคารแห่งใหม่ ลงทุนไปกว่า 124 ล้านบาท เป็นตึก 5 ชั้น ที่มีห้องเรียนแบบ smart classroom และ co-working space รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนให้นักศึกษาเกิดแนวคิดเชิงนวัตกรรม คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 เพื่อรองรับจำนวนนักศึกษาที่จะขยายตัว โดยตั้งเป้าว่าปี 2564 จะต้องมีนักศึกษาเพิ่มขึ้น 50% จากปัจจุบันมีจำนวนอยู่ที่ 1,754 คน”
ทั้งนั้น การจะไปสู่เป้าหมายต่าง ๆ ที่วางไว้จะใช้หลักการบริหาร 5 P กับ 1 N คือ product สร้างหลักสูตรพันธุ์ใหม่, place การเรียนแบบออนไลน์ และ city campus, promotion การตั้งเอเย่นต์ในต่างประเทศ, people เพิ่มสัดส่วนอาจารย์ชาวต่างชาติ, processจัดตั้ง profit center เพื่อหารายได้เข้าคณะและ networking ซึ่งจะสร้างความร่วมมือกับคณะอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัย และภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม
ปั๊มหลักสูตรจับทุกกลุ่มเป้าหมาย
ในส่วนของการพัฒนาหลักสูตร “ผศ.ดร.สิงหะ ฉวีสุข” รองคณบดีคณะการบริหารและจัดการ สจล. กล่าวว่า ปัจจุบันมีหลักสูตรภาษาไทย และหลักสูตรนานาชาติ ครอบคลุมทั้งหลักสูตรบริหารธุรกิจ, เศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการ, การจัดการกีฬาและสื่อบันเทิง และการจัดการธุรกิจอุตสาหกรรม โดยพยายามผลักดันจำนวนหลักสูตรอินเตอร์มากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำหลักสูตร digital economy ของระดับปริญญาตรี
“อีกหนึ่งหลักสูตรที่ถือว่าเป็นแห่งแรกของไทย คือ ปริญญาตรี 2 ปี เป็นหลักสูตรอินเตอร์ที่รับนักเรียนที่จบอาชีวศึกษาจากต่างประเทศ รวมถึงนักเรียนอาชีวศึกษาของไทยที่มีความสนใจก็สามารถเข้าศึกษาหลักสูตรนี้ได้เช่นกัน โดยเรียนด้านวิชาการ 1 ปี และฝึกงานอีก 1 ปี”
นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตร sandwich degree เป็นหลักสูตร 2 ปริญญา ด้วยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศอย่าง MIT Sloan, King”s College และ University of Oxford รวมถึงมีหลักสูตร 3 ปริญญา สำหรับนักเรียนอาชีวศึกษาที่มาเรียนต่อปริญญาตรี 2 ปี เมื่อจบแล้วเรียนต่อปริญญาโททันทีอีก 2 ปี ซึ่งเรียนที่ สจล. และ University of Nevada ประเทศสหรัฐอเมริกา
“ผศ.ดร.สิงหะ” กล่าวอีกว่า สจล.ยังเน้นการสร้าง multidisciplinary degree หรือนำ 2 ศาสตร์มารวมกัน เบื้องต้นจะนำหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์, เทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีสารสนเทศ มาผนวกกับหลักสูตรบริหารธุรกิจ เพื่อให้นักศึกษามี mindset ในศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง แล้วนำไปต่อยอด รวมถึงออกแบบ corporate-based degree ผลักดันให้นักศึกษาได้เรียนและทำงานกับสถานประกอบการ เพื่อจบมาแล้วสามารถปฏิบัติงานได้ทันที
“ยิ่งกว่านั้น เรายังมีหลักสูตรออนไลน์ที่เป็น training course สำหรับกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการอัพทักษะของตัวเอง โดยสามารถเก็บเป็นหน่วยกิต และเทียบโอนเป็นรายวิชาได้ ในกรณีที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญา ซึ่งหลักสูตรที่เปิดสอนมีทั้ง fintech, blockchain, data analytic เป็นต้น เรียกได้ว่าทุกหลักสูตรที่เราทำนั้นจะสอดรับกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่จริง ๆ”
รุกเจาะตลาดต่างประเทศ
“ผศ.ดร.สุทธิ สูอำพัน” รองคณบดีคณะการบริหารและจัดการ สจล. ฉายภาพถึงการรับนักศึกษาต่างชาติว่า ปกติแล้วเป็นลักษณะของการทำความร่วมมือ หรือทำ MOU กับมหาวิทยาลัยต่างประเทศซึ่งทางคณะมองว่าเมื่อมีจุดแข็งด้านวิชาการแล้ว จะทำอย่างไรเพื่อให้จุดแข็งที่มีเป็นที่รับรู้ของนักศึกษาต่างชาติมากขึ้น
“เราจึงขยับมาทำตลาดต่างประเทศ เพราะเมื่อมีการเปิดหลักสูตรนานาชาติแล้ว ต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่เคยทำงานเชิงรุกไม่ว่าจะเป็นการไป open house หรือตั้งเอเย่นต์ต่างประเทศ แต่ปีนี้เป็นต้นไป เราจะหันมาทำเรื่องนี้เต็มตัว โดยมองตลาดจีนและเมียนมาเป็นหลัก”
“เดือน ส.ค.นี้จะเปิดหลักสูตรบริหารธุรกิจสำหรับโปรแกรมภาษาจีนในระดับปริญญาตรี เพื่อรองรับนักศึกษาจีนที่จะทยอยเข้ามา ซึ่งเราเพิ่งเริ่มเปิดหลักสูตรนานาชาติเพียง 3 ปี มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติไม่ถึง 10% ของนักศึกษาทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 1,700 คน อย่างไรก็ดี เมื่อเราเข้ามาจับตลาดนี้แล้ว คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนนักศึกษาต่างชาติให้ได้สัดส่วนอยู่ที่ 30% ต่อจำนวนนักศึกษาทั้งหมดของแต่ละคลาส”
โดยแผนงานเหล่านี้จะเป็นสปริงบอร์ดชั้นดีที่สร้างการเติบโตให้คณะการบริหารและจัดการ สจล. กระโดดไปสู่ระดับอาเซียน และระดับโลกได้ในอนาคต
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!