รถตู้ปริศนา! โผล่เตรียมอุดมฯ คาดบริจาคแลกเข้าเรียนเมื่อปี’60

2 รถตู้ปริศนาโผล่เตรียมอุดมฯ ผอ.ร.ร.ไม่กล้าใช้ คาดผู้ปกครองบริจาคแลกเข้าเรียนเมื่อปี’60

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 นายธนารัชต์ สมคเณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) เขต 1 กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ตนได้ประสานไปยังโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เพื่อขอยืมรถมาใช้ในกิจการราชการของ สพม.เขต 1 กทม. แต่ทางโรงเรียนแจ้งว่าไม่มีรถ ตนจึงสอบถามว่ารถที่จอดในโรงรถใช้ไม่ได้หรือ ก็ได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนว่าเป็นรถไม่มีทะเบียน ไม่สามารถนำมาใช้ได้ และเป็นรถที่ได้รับบริจาคมาจากผู้ปกครองตั้งแต่ปี 2560 คาดว่าอาจจะมีการบริจาคในช่วงที่มีการรับนักเรียน ทางโรงเรียนจึงไม่กล้านำไปใช้ และจอดทิ้งไว้ที่โรงรถ แต่ล้างและดูแลอย่างดี ทั้งนี้ ตนเห็นว่าปล่อยไว้ไม่เหมาะสม จึงให้โรงเรียนประสาน สน.ปทุมวัน มายกรถไปไว้ที่ สน.และวันนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)จะมาติดตามการรับสมัครนักเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ว่าเป็นไปตามมาตรการ ป.ป.ช. หรือไม่ ซึ่งก็จะประสานให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ไปในคราวเดียวกัน

ด้านนายโสภณ กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ สพม.เขต 1 กทม.ประสานขอใช้รถ ตนจึงได้แจ้งว่ารถตู้ 2 คันไม่ใช่รถโรงเรียนและรถก็ไม่มีเอกสาร ไม่มีทะเบียน คงให้เขตพื้นที่ฯยืมไม่ได้ อีกทั้งไม่มีใบเสียภาษีใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อสอบถามรองผู้อำนวยการสถานศึกษาไม่ทราบที่มาที่ไปของรถ 2 คันนี้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทราบว่ารถ 1 ใน 2 คันได้รับมาในวันที่ 6 มิถุนายน 2560 ซึ่งเป็นช่วงหลังรับนักเรียนแล้ว ส่วนอีกคันไม่รู้ว่ารับมาในวันใด ซึ่งตนมารับตำแหน่งได้เพียง 5 เดือน พอมาเห็นแบบนี้ก็ตกใจจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ว่าควรทำอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกจะช่วยตรวจสอบที่มาที่ไปให้ พร้อมให้คำแนะนำว่าให้นำรถตู้ 2 คัน ไปไว้ที่ สน.ปทุมวัน ดีกว่าและเพื่อให้เกิดความชัดเจนตนได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงว่ารถตู้ทั้ง 2 คันมีที่มาที่ไปอย่างไร โดยมีรองผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นประธาน คาดว่าใช้เวลาไม่นาน และจะรายงาน สพฐ.ต่อไป

วันเดียวกัน นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ ประธานคณะกรรมการรับนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการรับนักเรียนโรงเรียน ว่า กรณีรถตู้ 2 คันที่จอดทิ้งไว้ ยังไม่ได้มีการพิจารณา แต่จะหารืออีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ฝากผู้ปกครองทุกคน ครั้งนี้จะไม่มีการฝากเด็กอย่างแน่นอน และผู้ปกครองอย่าไปหลงเชื่อมิจฉาชีพที่จะฝากให้บุตรหลานเข้าเรียนได้

 

 

ที่มา:มติชนออนไลน์