“หมอธี” ชี้ถ้าอดีตผอ.เตรียมฯ ให้ผู้ปกครองบริจาค “รถตู้” แลกที่เรียนลูกจริง ถึงเกษียณแล้วก็เอาผิดได้

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยกรณีการตั้งคณะกรรมการสือสวนข้อเท็จจริงกรณีมีผู้บริจาครถตู้ 2 คัน ให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และจอดทิ้งไว้ในโรงรถเป็นเวลา 2 ปี แต่ทางโรงเรียนไม่กล้านำไปใช้ เพราะไม่มีทะเบียน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นการบริจาคเพื่อแลกที่นั่งเรียน ว่าขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ยังไม่รายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงมาให้ตนทราบ อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกฝ่ายดำเนินงานไปตามขั้นตอน เรื่องนี้ไม่อยากไปล้วง หรือไม่เข้าไปเจาะจงเฉพาะโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง เพราะอาจจะดูไม่ดี อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงหาเสียง และใกล้เลือกตั้ง ไม่อยากให้ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองไป

นพ.ธีระเกียรติกล่าวต่อว่า ส่วนการสอบข้อเท็จจริงอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมฯ ตนไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นการสอบข้อเท็จจริงในประเด็นรถตู้ หรือประเด็นทุจริตอื่นๆ แค่ทราบจากการรายงานเป็นระยะๆ ว่าอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมฯ มีปัญหา แต่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องใด อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวทาง สพฐ.และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 กรุงเทพมหานคร (สพม.เขต 1 กทม.) สามารถตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ตามขั้นตอน ไม่จำเป็นต้องรายงานให้ตนทราบ

“รัฐมนตรีไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทุกเรื่อง แต่อาจมีกรณีที่สังคมให้ความสนใจ เช่น กรณีการทุจริตในโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เมื่อการสอบข้อเท็จจริงแต่ยังไม่คืบหน้า หรือเรื่องอื่นๆ ที่ประชาชนให้ความสนใจแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ผมต้องลงไปจัดการ เป็นต้น อีกทั้งแต่ละเรื่องผมวางตัวไว้ว่าหากเรื่องเกิดขึ้นแล้ว เกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหนบ้าง หน่วยงานนั้นต้องลงไปจัดการเรื่องได้เลย ส่วนจะกลัวหรือไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะเข้ามาแล้วเรื่องนี้เหล่านี้จะเงียบไป ผมไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะเงียบไป เพราะโรงเรียนเตรียมฯ มีคณะกรรมการสถานศึกษาที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ทุกคนมีการศึกษา ไม่ต้องทำอะไรเขาก็ไปซัดกันเองแล้ว และผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นคนมีการศึกษา มีความคิด ไม่ชอบเรื่องโกง ผมถึงไม่ห่วงในเรื่องนี้” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่ สพม.เขต 1 กทม.ให้ข้อมูลว่าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตรวจพบรถตู้ 1 คัน เป็นรถที่คาดว่าจะมาจากเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะจริง โดยมีผู้ปกครองรายหนึ่งมอบเงินให้โรงเรียนไปซื้อรถตู้เพื่อแลกที่นั่งเรียนให้กับลูก ซึ่งคาดว่าการรับมอบรถอยู่ในช่วงอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนคนก่อน ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการไป จะเอาผิดได้หรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า แม้อดีตผู้อำนวยการจะเกษียณฯ แล้ว จะโดนโทษทางวินัยแน่นอน ไม่ต้องห่วง เพราะตามมติ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบการกำหนดมาตรฐานวินัยข้าราชการกับผู้ที่พ้นข้าราชการ ซึ่งหมายถึงการเอาผิดในสมัยที่ยังรับราชการอยู่ แต่พ้นราชการ ลาออก หรือเกษียณฯ แล้วไม่สามารถเอาผิดได้

“โดยมี 2 หลักเกณฑ์ที่ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกหน่วยงาน คือ 1.ถ้าทำผิดสมัยรับราชการ แล้วคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ชี้มูลความผิดทางวินัย และลงโทษตามที่ชี้มูล โดยจะไม่นำกฎหมายที่ข้าราชการผู้นั้นสังกัดอยู่มาบังคับใช้ และ 2.หากเป็นเรื่องที่หน่วยงานต้นสังกัดตรวจพบว่า ข้าราชการในสังกัดทำความผิดในสมัยที่ยังรับราชการ กำหนดวิธีการปฏิบัติ คือ 2.1 ให้สอบสวนภายใน 1 ปี นับตั้งแต่พ้นราชการ นอกจากนี้ การสั่งลงโทษต้องสั่งลงโทษภายใน 3 ปี นับตั้งแต่พ้นราชการ ดังนั้น ไม่ต้องห่วง ยิ่งเรื่องแป๊ะเจี๊ยะ ทราบว่า ป.ป.ช.เอาจริงเอาจัง ไม่ปล่อยไว้แน่นอน เพราะรู้ว่าทำเรื่องไหนแล้วประชาชนสนใจ” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์