ด้วยความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้หลายๆ ภาคส่วนต่างเตรียมความพร้อม เพื่อจะตั้งรับกับสิ่งที่จะเปลี่ยนไปในอนาคต ไม่เว้นแม้แต่ภาคการศึกษา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตบุคลากรออกไปสู่ตลาดแรงงาน ผลเช่นนี้ จึงทำให้ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ที่ลงนามความร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ในการพัฒนาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ด้านนวัตกรรมบริการดิจิทัล จึงถือเป็นแห่งแรกของประเทศ เพื่อยกระดับทักษะ ความรู้ ความสามารถของแพทย์เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในระดับสากลต่อไป
กล่าวกันว่า ความร่วมมือครั้งนี้นอกจากจะเป็นการร่วมกันพัฒนาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ด้านนวัตกรรมบริการดิจิทัล ในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านการแพทย์กับเทคโนโลยีดิจิทัล ในสาขาที่ตอบสนองความต้องการของประเทศ อาทิ การสนับสนุนการจัดกิจกรรมทางวิชาการ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริม และสนับสนุนด้านการเรียนการสอน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ หากยังนำมาสนับสนุนเครือข่ายสหกิจ หรือการทำงานร่วมกันระหว่างบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ มน. และบุคลากรของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มจธ. ในรูปแบบของทำวิจัยร่วม เพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบสารสนเทศ และยกระดับความรู้ทางด้านการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
“ผศ.ดร.เกรียงไกร ปอแก้ว” คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า ความร่วมมือทางวิชาการครั้งนี้ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศของ มจธ. จะร่วมพัฒนานิสิตแพทยศาสตร์ของ มน. ให้มีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยี และการออกแบบบริการดิจิทัล เพื่อให้เกิดการบูรณาการความรู้ทางด้านการแพทย์ และนวัตกรรมบริการดิจิทัล จนนำไปสู่การพัฒนาหรือการออกแบบบริการทางด้านการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพในอนาคต
“โดย มจธ.จะร่วมจัดการเรียนการสอนให้กับหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของคณะแพทยศาสตร์ มน. ปีการศึกษา 2562 ในหมวดวิชาเฉพาะจำนวน 4 วิชา ได้แก่ วิชาพื้นฐานด้านดิจิทัล (digital fundamental) ซึ่งจะจัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาในชั้นปีที่ 1, วิชาการเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคดิจิทัล (digital transformation) จัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาในชั้นปีที่ 2, วิชาการวิเคราะห์และออกแบบจุดสัมผัส (touch point analysis and design) จัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาในชั้นปีที่ 3 และ วิชาการบริหารโครงการดิจิทัล (digital project management) จะจัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาในชั้นปีที่ 5”
ทั้งนี้ แต่ละรายวิชาจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป อย่างวิชาพื้นฐานด้านดิจิทัล นักศึกษาจะได้เรียนเกี่ยวกับแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ องค์ประกอบคอมพิวเตอร์ ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์สนับสนุน เทคโนโลยีเสมือนจริง การประมวลผลแบบคลาวด์ รวมถึงหลักการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชั่นขั้นพื้นฐาน โครงสร้างของเว็บ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนวิชาการจะเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคดิจิทัล นักศึกษาจะรู้ถึงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างนวัตกรรมจากเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของต้นทุน และรายได้ อันเป็นผลมาจากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตน รวมถึงแนวคิด และหลักการการออกแบบบริการดิจิทัล เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีแก่ผู้ใช้
ขณะที่วิชาการวิเคราะห์ และออกแบบจุดสัมผัส จะเน้นกระบวนการในการวิเคราะห์ และออกแบบจุดสัมผัส การสำรวจความต้องการของผู้ใช้ เพื่อสร้างแผนผังประสบการณ์การใช้งานที่ดี การวิเคราะห์ และออกแบบส่วนปฏิสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน สร้างต้นแบบจากสิ่งที่ออกแบบไว้ เพื่อนำไปทดสอบการใช้งาน และปรับปรุงแก้ไขจนสามารถใช้งานได้จริง
สุดท้ายวิชาการบริหารโครงการดิจิทัล นักศึกษาจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารโครงการดิจิทัล ทั้งการบริหารต้นทุนและการประหยัดพลังงาน การบริหารคุณภาพ การบริหารทรัพยากรบุคคล การบริหารการติดต่อสื่อสารและการร่วมงาน ขั้นตอนการดำเนินงานและการบริหารโครงการ การกำกับควบคุมโครงการ ตลอดจนการนำเสนอสารสนเทศของโครงการ
“รศ.นพ.ศิริเกษม ศิริลักษณ์” คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มน. กล่าวเสริมว่า ด้วยเทคโนโลยี และความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์สมัยใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งนิสิตแพทย์ที่จะจบไปเป็นบัณฑิตแพทย์ในอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม และทันกับยุคสมัย
“จากปัจจัยดังกล่าวจึงเกิดเป็นความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างคณะแพทยศาสตร์ มน. และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มจธ. ในการร่วมกันออกแบบหลักสูตรตั้งแต่ต้น โดยมุ่งเน้นการใช้การเรียนการสอนที่ผสมผสานกันระหว่างการเรียนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ และเพิ่มมีขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่กันไป เพื่อให้บัณฑิตแพทย์พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคต อันจะส่งผลดีต่อประชาชนผู้รับบริการอย่างแท้จริง”
“ที่สำคัญเมื่อเราหล่อหลอมเรื่องราวเหล่านี้ตั้งแต่แรกเริ่มของการเป็นนิสิตแพทย์ จึงทำให้เชื่อว่าแพทย์ไทยในอนาคตจะมีความสามารถด้าน biomedical engineering and information technology ที่สามารถเป็นผู้นำระดับโลกต่อไปได้อย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือในครั้งนี้เชื่อว่าจะยกระดับหลักสูตรการแพทย์ของไทยให้มีประสิทธิภาพ ภายใต้การบูรณาการในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตด้านนวัตกรรมบริการดิจิทัล เพื่อรองรับกับการพัฒนาประเทศทางด้านการแพทย์ โดยนิสิต นักศึกษาแพทย์จะผ่านการพัฒนา และบ่มเพาะจากผู้เชี่ยวชาญของทั้ง 2 สถาบัน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการผลิตแพทย์ที่มีความรู้ มีทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
จึงนับเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาบุคลากรทางด้านการแพทย์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ และการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างแท้จริง