“สกสค.-องค์การค้า” ถูกกรมบังคับคดีอายัดบัญชีกว่า 200 ล. หวั่นกระทบจ่ายเงินเดือนพนง.

เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ได้ลงนามในหนังสือเพื่อเสนอไปยังสำนักงานประมาณ เพื่อขอใช้งบประมาณกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 2562 จำนวน 2,390 ล้านบาท มาใช้ในการแก้ไขวิกฤตปัญหาหนี้สินองค์การค้าซึ่งเป็นหนี้ที่ศาลพิพากษาไปแล้ว โดย สกสค.ได้ส่งหนังสือไปยังสำนักงานประมาณ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับ ซึ่งตนหวังว่า สำนักงบประมาณจะพิจารณาและเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และหวังว่าการของบฉุกเฉิน จะทันภายในรัฐบาลชุดนี้ ส่วนมติที่ประชุม สกสค. ให้ สกสค.ช่วยองค์การค้าชำระหนี้ค่ากระดาษและค่าพิมพ์ จำนวนกว่า 600 ล้านบาทนั้น สกสค.แก้ไขปัญหาให้แล้ว โดยยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมสนับสนุนพิเศษ มาใช้หนี้ให้องค์การค้าก่อน ทั้งนี้ ทางองค์การค้าต้องทำสัญญาจ่ายคืนกับ สกสค.ด้วย โดยสัญญากำหนดให้ชำระหนี้ตั้งแต่เดือนเมษายน เป็นต้นไป และมีระยะเวลาชำระเงิน 10 เดือน และจ่ายค่าตอบแทนหรือค่าเสียโอกาสให้ สกสค.จำนวนร้อยละ 3

นายอรรถพลกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ทางกรมบังคับคดีได้ทำการอายัดบัญชีของ สกสค.และขององค์การค้า เป็นซึ่งการอายัดตามตามคำพิพากษาของศาลในเรื่องการชำระหนี้ค่ากระดาษ ให้กับบริษัท ซี เอ เอส เปเปอร์ จำกัด โดยทั้ง 2 บัญชีนี้ มีเงินมูลค่ารวมกันจำนวน 200 กว่าล้านบาท บัญชี สกสค.ที่ถูกอายัดไป เป็นบัญชีกระแสรายวัน ซึ่ง สกสค.ไม่ได้ทำธุรกรรมใดๆ ในบัญชีนี้ จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนบัญชีขององค์การค้าที่ถูกอายัดไป ตนได้รับแจ้งจากองค์การค้าว่าเป็นบัญชีกระแสรายวันที่มีเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (OD) ซึ่งเงินจำนวนนี้เตรียมนำมาจ่ายเงินเดือนค่าจ้างให้พนักงาน จึงอาจจะได้รับผลกระทบต่อการจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างของพนักงาน ซึ่งทางองค์การค้าได้ทำหนังสือแจ้งมายัง สกสค.ให้ช่วยแก้ปัญหาแล้ว

นายอรรถพลกล่าวต่อว่า ในส่วนของการแก้ปัญหาหากกระทบการจ่ายเงินเดือนให้พนักงานองค์การค้า ขณะนี้ตนรอข้อมูลตัวเลขจากองค์การค้าว่า มีบัญชีเงินฝากอื่นๆ อยู่จำนวนเท่าใด มีหนี้ค้างท่อหรือลูกหนี้จำนวนเท่าใด ซึ่งจากที่ตนดูข้อมูลจากที่องค์การค้าเคยให้ตัวเลขไว้ การจ่ายค่าจ้างเดือนมีนาคม น่าจะไม่มีปัญหา ส่วนการจ่ายเงินเดือน ในเดือนถัดไปนั้น หากองค์การค้าบริหารเงินได้ อาจจะไม่มีผลกระทบมากนัก และช่วงนี้มีเงินค่าแบบเรียนที่ร้านค้าตัวแทน ได้ทยอยจ่ายเงินให้องค์การค้าเข้ามาเป็นระยะอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนมอบหมายให้องค์การค้า เร่งสำรวจลูกหนี้ และทวงหนี้เพื่อเอามาสนับสนุนการค่ายเงินเดือนต่อไป

“เรื่องที่ สกสค.และองค์การค้า ถูกกรมบังคับคดีอายัดบัญชีนั้น ผมจะรายงานรัฐมนตรีว่าการ ศธ. และมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาว่า การที่กรมบังคับคดีอายัดบัญชี สกสค.สามารถโต้แย้งคัดค้านได้หรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนไป จากเดิมที่คำพิพากษาศาลฎีกา ที่พิพากษาว่าทรัพย์สินของ สกสค.ไม่เป็นทรัพย์สินของแผ่นดินสามารถยึดและอายัดได้ แต่ต่อมามีข้อเท็จจริงใหม่ปรากฏขึ้นคือ เมื่อนพ.ธีระเกียรติ ได้ลงนามในหนังสือ เพื่อเสนอของบประมาณกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 2562 เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินให้ สกสค. ฉะนั้นจะเห็นว่าส่วนนี้เป็นการของบประมาณแผ่นดินนำมาใช้จ่าย และเมื่อเร็วๆ นี้ สกสค.เคยพยายามขอกู้เงิน เพื่อแก้ปัญหาให้องค์การค้า แต่สุดท้ายสำนักบริหารหนี้ กระทรวงการคลัง ได้วินิจฉัยตอบกลับมาว่า สกสค.ถือเป็นหน่วยงานของรัฐ การไปกู้เงินเพิ่มต้องถือเป็นหนี้สาธารณะ ฉะนั้นจะเห็นว่าคำยืนยันอย่างน้อย 2 ประกาศนี้ น่าจะเป็นการเสนอเพื่อคัดค้านหรือโต้แย้งได้ ภายในวันที่ 27 มีนาคม ผมจะเซ็นหนังสือถึงอัยการเพื่อให้อัยการพิจารณาต่อไป” นายอรรถพลกล่าว

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์