เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ใช้ทำเลใหม่ อินสไปร์ผู้เรียน

ธุรกิจอาหารแข่งขันรุนแรง เพราะมีคู่แข่งในตลาดเพิ่มขึ้นมาก รวมไปถึงความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ บีบให้คนทำธุรกิจอาหารต้องแข่งขันกัน ทั้งด้านราคา คุณภาพ และความแปลก ดังนั้น ผู้ประกอบการในธุรกิจร้านอาหารไม่อาจหยุดนิ่งอยู่กับที่ ต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอในทุกทักษะ โดยแหล่งความรู้สำคัญ คือ สถาบันเฉพาะทางด้านอาหาร ที่วันนี้ไม่ได้ทำหน้าที่แค่สอนการทำอาหารเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปจนถึงการบริหารจัดการธุรกิจอาหารด้วย

หากพูดถึงสถาบันอันดับต้น ๆ ของโลกที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ต้องมีชื่อ “เลอ กอร์ดอง เบลอ” (Le Cordon Bleu) อยู่ในลิสต์แน่นอน โดยเลอ กอร์ดอง เบลอ ก่อตั้งมาแล้วกว่า 100 ปี และมีเปิดสอนกว่า 20 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า “เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต” ที่เป็นการร่วมทุนกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ตลอดระยะเวลา 11 ปี ในประเทศไทย เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ได้พัฒนาทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งองค์ความรู้ และความพร้อมด้านสถานที่ และเครื่องมือที่ส่งเสริมการเรียน

ล่าสุด “อังเดร เจ คอยน์โทร” ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ อินเตอร์เนชั่นแนล บินตรงจากฝรั่งเศสสู่ไทย เพื่อเปิดตัวหลักสูตร “วิชาการจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร” และเปิดตัวโรงเรียนแห่งใหม่ใจกลางเมืองในย่านธุรกิจการค้าที่มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ในอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ อย่างเป็นทางการ

“อังเดร เจ คอยน์โทร” กล่าวว่า การสร้างโรงเรียนแห่งใหม่เป็นผลที่เกิดจากการปิดปรับปรุงโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จึงต้องหาทำเลยุทธศาสตร์คืออยู่ใจกลางเมือง อย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และสถานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ รวมไปถึงการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจเรียนด้านอาหารมากขึ้น

โรงเรียนแห่งใหม่มีจุดเด่นในเรื่องการตกแต่ง การวางแผนผังห้องเรียนและห้องปฏิบัติการครัวเอาไว้ แต่ความแตกต่างที่สำคัญ คือ สิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์อันทันสมัยมากขึ้น ในขณะเดียวกันยังได้พัฒนาหลักสูตรใหม่ชื่อว่า การจัดการด้านอาหารชั้นสูง หรือ The Advanced Culinary Management Programme เพื่อตอบโจทย์กับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่คนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่กลับมีสถิติการปิดตัวของร้านอาหารหลังจากเปิดกิจการได้เพียง 1 ปี ที่มีมากถึง 60% และปิดตัวลงเมื่อดำเนินธุรกิจมาถึงปีที่ 5 จำนวน 80% ซึ่งหลักสูตรใหม่นี้จะให้ความสำคัญกับการสร้างเชฟชั้นแนวหน้าไปพร้อม ๆ กับการเพิ่มทักษะการบริหารจัดการเพื่อการทำธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จ เพื่อให้เป็นที่ 1 ทั้งในครัวและการแข่งขันทางธุรกิจ”

นักเรียนในหลักสูตรวิชาการจัดการธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร จะได้เน้นการฝึกปฏิบัติทำแผนธุรกิจเสมือนการเป็นเจ้าของร้านอาหารที่กำลังจะเริ่มต้นหรือขยายกิจการ และเรียนรู้จากประสบการณ์และมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในแวดวงธุรกิจอาหาร หลักสูตรนี้ยังได้เปิดสอนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส และลอนดอน ประเทศอังกฤษซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่จากทั่วทุกมุมโลกที่ใฝ่ฝันจะเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร

“อังเดร เจ คอยน์โทร” อธิบายต่อว่า จำนวนนักเรียนที่สนใจเรียนทำอาหารเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกประเทศ โดยเฉพาะคนอายุ 20-25 ปี มาเรียนทำอาหารกับเลอ กอร์ดอง เบลอ เพิ่มขึ้น 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากเหตุผลที่ว่าวงการบันเทิงมีการทำรายการประกวดทำอาหารหลายรายการ และผู้ปกครองเริ่มเข้าใจว่า การเรียนทำอาหารเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง และการทำงานในครัวก็มีศักดิ์ศรีเช่นเดียวกับอาชีพอื่น ๆ และยังสามารถต่อยอดได้อีกหลายอย่าง เช่น ครูสอนด้านอาหาร เขียนหนังสือ และเป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นต้น

สิ่งที่ทำให้ เลอ กอร์ดอง เบลอ ยังสามารถแข่งขันได้ในยุคนี้ เป็นเพราะคุณภาพและความเป็นมืออาชีพของครู รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหาร อีกทั้งยังมีโรงเรียน มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยอาชีวะด้านอาหารในหลายประเทศ ทำให้ครูผู้สอนสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ส่งต่อความรู้ และได้ความรู้ใหม่ ๆ จากการพูดคุย และดูงานในประเทศต่าง ๆ ที่มีการเปิดดำเนินการของเลอ กอร์ดอง เบลออีกด้วย
ด้าน “สุชาดา สถาปิตานนท์” ผู้อำนวยการโรงเรียนเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวเสริมว่า โรงเรียนแห่งใหม่ของเลอ กอร์ดอง เบลอมีเนื้อที่กว่า 3,000 ตารางเมตร และมีจำนวนห้องครัวปฏิบัติการมากขึ้น เพื่อรองรับผู้สนใจเข้ามาเรียนได้ต่อเนื่อง นอกเหนือจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะขยายจำนวนผู้เรียนให้มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว ทั้งนี้ สัดส่วนนักเรียนต่างชาติกับนักเรียนไทยที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต สามารถแบ่งเป็น 25% และ 75% ตามลำดับ ตลอด 11 ปี ที่ผ่านมา มีคนกว่า 40 เชื้อชาติมาเรียน โดยอันดับต้น ๆ คือจากประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง ที่สนใจมาเรียนทำอาหารไทย สำหรับการพัฒนาหลักสูตรทำอาหารไทยนั้น เลอ กอร์ดอง เบลอ มีแผนที่จะพัฒนาหลักสูตรสอนทำอาหารไทยในสาขาที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย

“ปัจจุบันเลอ กอร์ดอง เบลอมีผู้สนใจเข้าเรียนกว่า 1,000 คน จากหลากหลายปัจจัยทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะมีผู้สมัครเข้ามาเรียนได้ตามเป้าหมายที่ 1,200 คนในปีนี้ โดยกลุ่มเป้าหมายของเลอ กอร์ดอง เบลอ ต้องการเพิ่มนักเรียนจากกลุ่มประเทศ AEC หรือ ASEAN Economics Community มากขึ้น เพราะตอนนี้เริ่มมีผู้สนใจเข้าเรียนจากประเทศลาว และเมียนมา ซึ่งกลุ่มนี้มีกำลังซื้อมากขึ้นอีกด้วย”

อย่างไรก็ตาม จากหลักสูตรที่เคยได้รับความนิยมอย่างขนมอบ แต่เมื่อเทรนด์ของคนรักสุขภาพเพิ่มขึ้น ความนิยมก็ปรับลดลง ในขณะเดียวกัน หลักสูตรอาหารคาวกลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และจะยังคงแฝงหลักสูตรขนมเสริมไว้ในหลักสูตรของคาว

สำหรับหลักสูตรการทำอาหารของเลอ กอร์ดอง เบลอ จะแบ่งออกเป็นชั้นต้น ชั้นกลาง และชั้นสูง โดยในแต่ละชั้นจะใช้เวลาในการเรียนอย่างน้อย 3 เดือน ส่วนค่าเรียนจะอยู่ที่ระดับชั้นละ 240,000 บาท และเมื่อเรียนจนจบหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตรจากเลอ กอร์ดอง เบลอ ที่รับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ