มองมุมใหม่ ‘ผอ.ศศินทร์’ ชูหลักสูตรการพัฒนาที่ยั่งยืน

สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาด้านการบริหารจัดการชั้นแนวหน้าของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ก่อตั้งมากว่า 37 ปี โดยล่าสุด “ศ.ดร.เอียน เฟนวิค” ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นลำดับที่ 4 ซึ่งรับไม้ต่อจาก “พารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา” ที่ครบวาระในการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2562 ผ่านมา

ถึงแม้เขาจะเป็นชาวแคนาดา แต่ “ศ.ดร.เอียน เฟนวิค” มีความคุ้นเคยกับการศึกษาของประเทศไทยเป็นอย่างดี เพราะเขามาประเทศไทยครั้งแรกในฐานะศาสตราจารย์รับเชิญ (visiting professor)จาก Schulich School of Business มหาวิทยาลัยยอร์ก เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อปี 2531 ทั้งยังเคยร่วมงานกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหลายแห่ง ในการพัฒนาหลักสูตรทางด้านผู้ประกอบการ

ในปี 2535 เขาเริ่มสอนที่ศศินทร์ โดยเป็นศาสตราจารย์รับเชิญในการสอนวิชากลยุทธ์ทางการตลาด และต่อมาเป็นอาจารย์ประจำในปี 2544 สอนวิชาการบริหารการตลาด และกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งยังมีบทบาทในการเป็นผู้บริหารศศินทร์ตั้งแต่ปี 2560 ได้ดำรงตำแหน่งรักษาการแทนรองผู้อำนวยการ ฝ่ายองค์กรภายนอกสัมพันธ์ จึงทำให้เขามีความเหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ยิ่งเฉพาะในเรื่องของการชูแนวคิดการเป็นผู้ประกอบการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้กับนักศึกษา และการพัฒนาหลักสูตรที่เหมาะสมกับโลก ในศตวรรษที่ 21

“ศ.ดร.เอียน เฟนวิค” กล่าวว่า ศศินทร์ เป็นโครงการแรกของ Kellogg School of Management ของมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น และ Wharton School ของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ด้วยการเปิดหลักสูตรความร่วมมือนานาชาติ โดยประเทศไทยร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งยังเป็นหลักสูตรแรกในโลกที่เริ่มต้นด้วยการสอนโดยใช้ศาสตราจารย์รับเชิญ (visiting professor) ทั้งหมด ซึ่งต่อมาทาง Kellogg School of Management จึงนำโมเดลนี้ไปใช้ต่อในประเทศแคนาดา, เยอรมนี, ฮ่องกง และอิสราเอลด้วย

“คณะผู้ก่อตั้งศศินทร์มีวิสัยทัศน์ยาวไกล และมีความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก ทำให้ศศินทร์เปี่ยมไปด้วยศักยภาพระดับโลกมากมาย แต่ยังคงสงบนิ่งเหมือนมังกรที่หลับอยู่ หน้าที่ของผมในการเข้ามาดำรงตำแหน่งครั้งนี้คือการปลุกมังกร ก็คือ ศศินทร์ ให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง โดยตอนนี้เราโฟกัสที่ sustainability through entrepreneurial mindset (การสร้างทัศนคติการเป็นผู้ประกอบการที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน)”

ADVERTISMENT

“ผมพยายามโฟกัสเพิ่มในเรื่องของความยั่งยืน และสร้างผู้บริหารให้มี mindset ผู้ประกอบการ เพราะเป็นเทรนด์การทำธุรกิจของโลกใหม่ ถ้าเราไม่เปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจ ไม่ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรบนโลก โลกของเราจะตายในที่สุด ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น มลพิษทางอากาศ และน้ำท่วม ซึ่งการทำธุรกิจที่ไม่สนใจเรื่องสังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของภัยธรรมชาติเหล่านี้ด้วย”

นอกจากเป้าหมายในการสร้างทัศนคติการเป็นผู้ประกอบการที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน “ศ.ดร.เอียน เฟนวิค” กล่าวเพิ่มเติมว่าเราจะสร้างศศินทร์ให้มีนักศึกษาต่างชาติมาเรียนมากขึ้น ตอนนี้สัดส่วนนักศึกษาไทยอยู่ที่ 90% และต่างชาติ 10% ผมจึงมองว่า ศศินทร์เป็นสถาบันที่มีหลักสูตร และรูปแบบการเรียนการสอนระดับอินเตอร์เนชั่นแนลอยู่แล้ว แต่การเพิ่มนักศึกษาต่างชาติเข้ามา จะยิ่งช่วยให้สภาพแวดล้อมมีความเป็นนานาชาติเต็มรูปแบบ ผู้เรียนมีการแลกเปลี่ยนแนวคิดที่แปลกใหม่ หลากหลาย และมีความแตกต่างมากขึ้น

ADVERTISMENT

“สำหรับมหาบัณฑิตของเราก็จะมี smart skills หมายถึง ผู้นำที่ต้องฟังเก่ง และฟังด้วยหัวใจ เข้าใจโลก และต้องฝึกฝนคนเป็น เราจึงพยายามสร้างคนที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความรู้ แต่ต้องสามารถทำงานแบบ agile (ให้ความสำคัญในการสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และการปรับปรุงพัฒนาอยู่ตลอด)และมีความรับผิดชอบ ซึ่งคนที่มี smart skills จะสามารถทำงานได้ทุกรูปแบบ และทำงานได้ดี ถึงแม้จะมีความเปลี่ยนแปลงในอนาคต”

“พร้อมกันนั้น เราจะเดินหน้าส่งเสริมการเรียนรู้แบบ lifelong learning และสนับสนุนให้คนใกล้วัยเกษียณมาเรียนรู้เพิ่มเติม (retraining) เพราะความรู้ที่พวกเขาได้เรียนมาจากสถาบันการศึกษาเมื่อ 10-20 ปีก่อน ไม่สามารถใช้ได้ในโลกอนาคต และสภาวะที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคที่อัตราการเจริญเติบโตของประชากรชะลอตัว มีองค์กรหลายแห่งยังต้องการคนที่อายุใกล้เกษียณทำงานต่อไปอีก หรือบางที่อาจดึงคนที่เกษียณอายุแล้วกลับเข้ามาทำงานใหม่ด้วย เราจึงมีหลักสูตรระยะสั้นที่จะรองรับคนกลุ่มนี้”

เมื่อพูดถึงการเรียนการสอนออนไลน์ที่เหมือนจะเป็นเทรนด์ของยุคดิจิทัล “ศ.ดร.เอียน เฟนวิค” บอกว่า ที่ผ่านมาศศินทร์มีการผสมการเรียนการสอนทางออนไลน์กับออฟไลน์ แต่ยังไม่มีการเรียนออนไลน์แบบเต็มรูปแบบ เพราะเราเน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำจริง นำปัญหาจริงที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจมาร่วมแก้ไข และทำงานกันเป็นทีม

“การเรียนในห้องเรียน หรือการเดินทางไปศึกษาดูงานตามสถานที่ต่าง ๆ ยังเป็นเรื่องสำคัญในหลักสูตรของเรา แต่ในอนาคตเราจะทำหลักสูตรออนไลน์เกี่ยวกับความยั่งยืนเพิ่ม เพื่อให้คนที่สนใจเข้ามาเรียนฟรี”

จึงนับว่าแนวความคิดในการสร้างคนให้เป็นผู้ประกอบการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของผู้อำนวยการคนใหม่ อาจช่วยพัฒนาผู้นำที่มีความยืดหยุ่น สามารถปรับตัวได้ตามสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ พร้อมทั้งยังเป็นการสร้างจิตใจที่เข้มแข็ง และมีบทบาทที่สำคัญในการสร้างสรรค์สังคมต่อไปในอนาคต

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!