ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ ม.คริสเตียนชดใช้ค่าใช้จ่ายให้นศ.หลักสูตรพยาบาลฯ

แฟ้มภาพ

ศาลปกครองกลางพิพากษาให้มหาวิทยาลัยคริสเตียนชดใช้ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียนและค่าใช้จ่ายอื่นในการเข้าศึกษาให้แก่นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ที่ยังไม่ผ่านการรับรองจากสภาการพยาบาล

เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยคริสเตียน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐ ยื่นฟ้องมหาวิทยาลัยคริสเตียน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ อธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน ที่ ๒ และสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เดิม) ที่ ๓ รวมจำนวน ๑๙ คดี ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ เปิดรับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐ ทั้งที่คณะกรรมการสภาการพยาบาลมีมติให้คณะพยาบาลศาสตร์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ งดรับนักศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๖๐ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแลหลักสูตรและการเรียนการสอนของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ละเลยต่อหน้าที่ ปล่อยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ นำหลักสูตรที่ยังไม่ผ่านการรับรองจากสภาการพยาบาลมาเปิดรับสมัครนักศึกษา ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย

ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คณะกรรมการสภาการพยาบาลในการประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๖๐
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐ มีมติให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ งดรับนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต และหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) เป็นเวลา ๑ ปีการศึกษา (ปีการศึกษา ๒๕๖๐) เนื่องจากคณะพยาบาลศาสตร์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ มีอัตราส่วนอาจารย์พยาบาลประจำหลักสูตรต่อนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเท่า (Full Time Equivalence Student : FTES) ในอัตราส่วนเกินเกณฑ์ที่กำหนดมาก และสภาการพยาบาลมีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ สภ.พ.๐๑/๐๕/๖๗๐ ลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ แจ้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ทราบแล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ จึงชอบที่จะงดการรับนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ในหลักสูตรดังกล่าว และดำเนินการสรรหาอาจารย์พยาบาลประจำหลักสูตรให้มีอัตราส่วนตามที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ หาได้ดำเนินการเช่นว่านั้นไม่ กลับทำการเปิดรับสมัครนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐ ทั้งในระบบรับตรงและระบบคัดเลือกผ่านระบบกลาง (Admissions) อันเป็นการจงใจไม่ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการสภาการพยาบาล และย่อมเล็งเห็นได้ว่าจะส่งผลให้นักศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐ หากสำเร็จการศึกษาไปแล้วจะไม่สามารถขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ได้ตามความประสงค์อันแท้จริงในการสมัครเข้ารับการศึกษาการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ดังกล่าว จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ มิได้มีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และไม่มีอำนาจหน้าที่ในการอนุมัติการรับนักศึกษาของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ จึงมิได้ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร

ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ รับผิดชดใช้ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนเรียน ค่าใช้จ่ายอื่นในการเข้าศึกษาในหลักสูตรของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และค่าเสียหายจากการทำงานล่าช้าในอัตราเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท เป็นเวลา ๑๒ เดือน ยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓