ร.ร.เอกชน จ่อโดนถอนใบอนุญาต 609 แห่ง เลิกกิจการ-ย้ายที่ไม่แจ้ง

โรงเรียน

สช. จ่อเพิกถอนใบอนุญาตโรงเรียนเอกชนเพิ่ม 609 แห่ง หลังพบเลิกกิจการ-ย้ายสถานที่ไม่แจ้ง ให้ทราบตามกฎหมาย

วันที่ 27 มกราคม 2564 กรณีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เพิกถอนใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบ ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 609 แห่ง หลังพบว่า หยุดดำเนินกิจการเกิน 90 วัน โดยไม่แจ้งเลิกกิจการ ตาม พ.ร.บ.โรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550

ล่าสุด มติชนรายงานว่า นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ระบุว่า เป็นเพียงการเพิกถอนใบอนุญาต รอบแรก คาดว่าจะมีการอออกคำสั่งเพิกถอนอีกหลายระรอก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบและเตรียมเสนอเรื่องให้เพิกถอบใบอนุญาตฯ โรงเรียนเอกชนนอกระบบอีก 500 กว่า แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรณียกเลิกหรือเปลี่ยนไปดำเนินกิจกรรมอื่นแล้วไม่แจ้งยกเลิกให้ สช. รับทราบตามกฎหมาย

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ โรงเรียนนอกระบบที่ย้ายสถานที่เปิดกิจการ แล้วไม่แจ้งให้ สช. ทราบ อีกประมาณ 4-5 แห่ง ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา กรณีนี้ทางผู้รับใบอนุญาตฯ ต้องมาเสียค่าปรับตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่โรงเรียนนอกระบบเท่านั้น โดยขณะนี้ สช. กำลังตรวจสอบโรงเรียนในระบบอีก 100 กว่าโรงเรียน ที่ยกเลิกกิจกรรม หรือปรับเปลี่ยนไปดำเนินกิจการรูปแบบอื่นแล้วไม่แจ้งขอปิดกิจการอย่างเป็นทางการกับ สช. คาดว่า จะมีความชัดเจนเร็ว ๆ นี้ โดยในการประชุมคณะกรรมการกช. วันที่ 27 มกราคม ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)เป็นประธานรับทราบต่อไป


“สาเหตุที่ทาง สช. ต้องมาจัดระบบครั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ประกอบกับ เป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สช.จะประสานขอความร่วมมือ เกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรม ก็ไม่สามารถประสานหรือติดต่อผู้รับใบอนุญาตฯ จัดตั้งได้ ดังนั้นจึงถือโอกาสครั้งนี้ในการเคลียร์ข้อมูลโรงเรียนเอกชนทั้งในระบบและนอกระบบให้มีความชัดเจนและเป็นปัจจุบัน ” นายอรรถพล กล่าว